เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในสหรัฐอเมริกา ชี้ ชาวอเมริกันเกือบครึ่งรู้สึกว่าชีวิตของตนเอง “มีความปลอดภัยน้อยลง” ในยุคของ บารัค โอบามา ระบุ ชีวิตคนอเมริกันเวลานี้ตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่าช่วงที่เกิดเหตุก่อวินาศกรรม 11 กันยายน ปี 2001 เสียอีก
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่จัดทำโดยเอ็นบีซี นิวส์ ร่วมกับวอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่มีการเผยแพร่ในวันพุธ (10 ก.ย.) ระบุว่า 47 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันรู้สึกว่า ในขณะนี้ตนเองและประเทศชาติมีความมั่นคงปลอดภัยลดน้อยถอยลง เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดเหตุวินาศกรรมในมหานครนิวยอร์ก และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 โดยฝีมือของสมาชิกกลุ่ม “อัลกออิดะห์”
ผลสำรวจยังพบข้อมูลว่า มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันในขณะนี้ สนับสนุนให้ใช้ “ปฏิบัติการทางทหาร” จัดการกับกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงของพวกมุสลิมนิกายสุหนี่ ที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State:IS) ที่กำลังแผ่ขยายอิทธิพลและสร้างความหวาดกลัวอยู่ในอิรักและซีเรียเวลานี้ ทั้งยังมีการประกาศตัวเองเป็น “ผู้นำโลกอิสลาม”
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจล่าสุดพบว่า ชาวอเมริกันเกินครึ่งในขณะนี้รู้สึกกังวลต่อภัยคุกคามของกลุ่มไอเอส มากกว่ากลุ่มอัลกออิดะห์ และต่างลงความเห็นว่า การถือกำเนิดของกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส เป็นผลพวงโดยตรงจากความผิดพลาดในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของรัฐบาล บารัค โอบามา นั่นเอง
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ ยังระบุว่า มีชาวอเมริกันเพียง 32 เปอร์เซ็นต์ ที่พึงพอใจผลงานของโอบามา ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นคะแนนความพึงพอใจต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศในระดับที่ต่ำเตี้ยที่สุดในยุคของโอบามาเช่นกัน
