เอเอฟพี - โอบามาหยอดคำหวาน ระบุ อเมริกาจะมีส่วนร่วมในเอเชียอย่างยั่งยืน เผย ยินดีกับการขยายอิทธิพลของพญามังกรในภูมิภาค แต่ยืนกรานว่า ทุกประเทศต้องมีเสรีภาพในการเดินเรือ และการบินในทะเลจีนตะวันออก และทะเลจีนใต้ พร้อมกันนี้ ทำเนียบขาวยังประกาศเจียดเงิน 90 ล้านดอลลาร์ ให้ลาวจัดการผลกระทบจากระเบิดตกค้างที่ซีไอเอปูพรมทิ้งไว้ในช่วงสงครามเวียดนามกว่า 2 ล้านตัน
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ใช้โอกาสการเยือนเอเชีย - แปซิฟิก ครั้งที่ 11 และครั้งสุดท้ายในตำแหน่ง ส่งเสริมนโยบายปักหมุดเอเชีย ซึ่งเป็นนโยบายต่างประเทศหลักของคณะบริหารชุดนี้ที่อยู่ในตำแหน่งมานาน 8 ปี
ระหว่างการปราศรัยที่ลาวในวันอังคาร (6) โอบามาสรุปนโยบายนี้ที่ถูกแย่งชิงความสนใจบ่อยครั้งจากสถานการณ์รุนแรง และไร้เสถียรภาพที่ยืดเยื้อในตะวันออกกลาง ว่า นโยบายนี้มุ่งหมายให้อเมริกาเพิ่มการมีส่วนร่วมในประเทศ และประชาชนของเอเชีย - แปซิฟิก อย่างลึกซึ้งขึ้น พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า การมีส่วนร่วมนี้จะยั่งยืน
ที่ผ่านมา ผู้นำอเมริกาป่าวประกาศการร่วมมือทางทหารกับหลายประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย ตลอดจนถึงผลักดันการค้ากับภูมิภาคนี้ พร้อมยืนยันมาตรการเหล่านี้จะดำเนินต่อไป
โอบามา ยังกล่าวถึงความกังวลของจีนที่เฝ้ามองนโยบายปักหมุดเอเชียของอเมริกาอย่างเคลือบแคลง ควบคู่ไปกับขยายนโยบายต่างประเทศในภูมิภาค โดยระบุว่า อเมริกาและจีนเกี่ยวข้องกันในหลายด้านอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อเมริกายินดีกับการขยายอิทธิผลของจีนในฐานะผู้ส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่งคั่งในเวทีโลก เนื่องจากเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่ออเมริกาด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ประมุขทำเนียบขาว สำทับว่า วอชิงตันสนับสนุนการเข้าถึงน่านน้ำอย่างเสรี ที่จีนมีข้อพิพาทกับชาติต่าง ๆ ทั้งทะเลจีนใต้ และทะเลจีนตะวันออก พร้อมย้ำว่า อเมริกาจะยังคงบิน เดินเรือ และดำเนินการสิ่งใด ๆ ก็ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตให้ทำได้ รวมทั้งสนับสนุนให้ทุกประเทศทำแบบเดียวกัน
นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังออกแถลงการณ์ว่า อเมริกาจะเพิ่มความพยายามในการช่วยลาวกำจัดระเบิดที่ตกค้าง และยังไม่ระเบิดที่มะกันเองเป็นฝ่ายปูพรมโจมตีในช่วงสงครามเวียดนาม
ลาวกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกทิ้งระเบิดหนักที่สุดในโลกต่อหัวระหว่างปี 1964 - 1973 ที่หน่วยข่าวกรองกลางของอเมริกา (ซีไอเอ) ทำสงครามลับเพื่อตัดเส้นทางการส่งเสบียงไปให้นักรบคอมมิวนิสต์ในสงครามเวียดนาม
ทั้งนี้ ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว อเมริกาทิ้งระเบิดใส่ลาวรวมแล้วกว่า 2 ล้านตัน ในจำนวนนี้ 30% ยังไม่ระเบิด ในจำนวนนั้นมีระเบิดดาวกระจายราว 80 ล้านลูก
ปัจจุบันพื้นที่มากมายในลาวยังคงมีระเบิดที่ยังมีอานุภาพทำลายล้างกระจัดกระจายอยู่ ข้อมูลของทางการลาว ระบุว่า มีประชาชน 50,000 คน เสียชีวิต หรือบาดเจ็บจากระเบิดเหล่านี้นับตั้งแต่เริ่มสงคราม จนกระทั่งถึงปี 2008 ซึ่งหลังจากนั้น ตัวเลขการสูญเสียเริ่มลดลงเหลือปีละ 40 คน เนื่องจากมีการเผยแพร่ความรู้ รวมทั้งเก็บกู้ระเบิดที่ตกค้าง แต่ถึงกระนั้น ลาวก็ยังฟื้นฟูบริเวณที่มีระเบิดได้เพียง 1% เท่านั้น
ปัญหานี้ทำให้สหรัฐฯ กับลาว มึนตึงต่อกันมานาน และเพิ่งจะหันมากระชับสัมพันธ์ใกล้ชิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ การเยือนของโอบามาครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่เดินทางเยือนประเทศคอมมิวนิสต์ขนาดเล็กแห่งนื้ จึงกลายเป็นโอกาสสำคัญในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่
ในแถลงการณ์ ทำเนียบขาวระบุว่า จะสนับสนุนเงิน 90 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้ลาวนำไปจัดการกับผลกระทบจากระเบิดที่ตกค้างและยังไม่ระเบิด เงินก้อนดังกล่าวที่ถือว่าเล็กน้อยมาก มาจากคำมั่นที่วอชิงตันเคยให้ไว้กับเวียงจันทน์เมื่อ 20 ปีที่แล้วว่าจะมอบเงินให้ 100 ล้านดอลลาร์
คำประกาศดังกล่าวยังเป็นกระจกเงาสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในเวียดนามตอนที่ความสัมพันธ์ระหว่างอดีตคู่สงครามกลับงอกงามขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 2000
การเยือนของโอบามาครั้งนี้ ยังมีการเข้าพบประธานาธิบดี บุนยัง วอละจิต ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในนครเวียงจันทน์ ทั้งนี้ บุนยัง ในวัย 78 ปี เป็นอดีตสมาชิกขบวนการปฏิวัติลาวที่ทำให้วอชิงตันยอมยุติการทิ้งระเบิดและพ่ายแพ้กลับไป
เช่นเดียวกับที่ทำกับเวียดนาม อเมริกาผลักดันให้ทางการลาวช่วยค้นหาเบาะแสอดีตทหารผ่านศึกอเมริกันที่สูญหาย โดยทางทำเนียบขาว ระบุว่า พบศพทหารในลาวแล้ว 273 นาย แต่ยังมีที่สูญหายอีก 301 นาย