เอเจนซีส์ – “โอบามา” โน้มน้าวผู้นำเวียดนาม สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานไม่ได้ทำให้เสถียรภาพลดทอนลง พร้อมประกาศให้ความช่วยเหลือด้านยุทโธปกรณ์เพื่อเพิ่มเขี้ยวเล็บหน่วยยามฝั่ง และสมรรถนะทางทะเลของฮานอย รวมทั้งสนับสนุนให้เส้นทางเดินเรือต่าง ๆ เป็นน่านน้ำเสรี ด้านสื่อแดนมังกรสวน อเมริกายอมผ่อนคลายมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อดึงเวียดนามร่วมตีกรอบจีน ชี้การเยือนของโอบามาเป็นลางร้ายสำหรับสันติภาพและเสถียรภาพของเอเชีย
โอบามา ขึ้นกล่าวปราศรัยสำคัญในวันอังคาร (24 พ.ค.) อันเป็นวันสุดท้ายของการเยือนเวียดนาม 3 วันของเขาคราวนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติเวียดนามในกรุงฮานอย ที่มีเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามร่วมฟังอยู่ด้วย โดยสาธยายความเชื่อของเขาที่ว่า สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานไม่ได้ทำให้เสถียรภาพลดทอนลง แต่กลับจะทำให้ประเทศก้าวหน้าขึ้น อย่างไรก็ดี ประมุขทำเนียบขาวสำทับ ว่า การดำเนินการของเวียดนามและอเมริกาอาจต่างกัน แต่ทั้งสองประเทศจำเป็นต้องพยายามและปรับปรุงหลักการพื้นฐานเหล่านี้
ครั้งนี้เป็นการเยือนเวียดนามหนแรกของโอบามา และถือเป็นประธานาธิบดีอเมริกันคนที่ 3 ซึ่งเดินทางมาประเทศนี้ขณะอยู่ในตำแหน่ง นับจากสิ้นสุดสงครามเวียดนามที่อเมริกามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในปี 1975
คำปราศรัยของโอบามาที่แฝงด้วยอารมณ์ขัน และอ้างอิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเวียดนาม ได้รับเสียงปรบมือกึกก้อง
ก่อนหน้านั้น ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้พบกับผู้นำภาคประชาสังคม ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเวียดนามบางคน อย่างไรก็ดี มีรายงาน รวมถึงการเปิดเผยจากโอบามาเองว่า นักเคลื่อนไหวบางคนถูกกีดกันไม่ให้มาพบเขา
การเยือนของโอบามาถือเป็นการปรับความสัมพันธ์ครั้งใหญ่ระหว่างสองชาติอดีตคู่สงคราม โดยที่สหรัฐฯยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรไม่ส่งอาวุธให้เวียดนาม นอกจากนั้นยังมีการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับฮานอย ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อนโยบายปักหมุดเอเชียของอเมริกา
โอบามา กล่าวว่า ความสัมพันธ์ยุคใหม่ที่อิงกับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และความมั่นคง สะท้อนว่าสองประเทศสามารถปรับปรุงแก้ไขจากประวัติศาสตร์และ “ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”
การค้าเป็นเป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งของทริปนี้ โดยมีการเปิดเผยข้อตกลงมูลค่านับพันล้านดอลลาร์ไปแล้วตั้งแต่วันจันทร์ (23) รวมถึงการพยายามผลักดันความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี)
ฮานอยนั้นอ้าแขนรับทีพีพีอย่างดี ตอกย้ำคำยืนยันของโอบามาที่ว่า ความตกลงนี้จะช่วยปรับรูปแบบการค้าโลกด้วยการลดภาษีนำเข้า แม้มีเสียงต่อต้านอึงมี่จากนักการเมืองมากมายในวอชิงตันก็ตาม
วันอังคาร ผู้นำสหรัฐฯ ยังประกาศว่า อเมริกาสนับสนุนให้เส้นทางเดินเรือต่าง ๆ เป็นน่านน้ำเสรี และว่า ประเทศใหญ่ไม่ควรรังแกประเทศที่เล็กกว่า และควรแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ
จุดยืนนี้ได้รับเสียงปรบมือกึกก้อง เนื่องจากกระแสต่อต้านจีนยังคงเชี่ยวกรากในเวียดนาม ซึ่งมีกรณีพิพาทแย่งชิงดินแดนบางส่วนในทะเลจีนใต้กับจีน เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในเอเชีย
แม้อเมริกาอ้างว่าไม่เข้าข้างประเทศใดในการแย่งชิงสิทธิอธิปไตยในน่านน้ำดังกล่าว แต่วอชิงตันก็ยืนยันและใช้เสรีภาพในการเดินเรือและการบินใกล้หมู่เกาะที่จีนอ้างสิทธิ์มาแล้วหลายครั้ง
โอบามายังบอกว่า อเมริกาจะให้ความช่วยเหลือด้านยุทโธปกรณ์เพื่อเพิ่มเขี้ยวเล็บหน่วยยามฝั่ง และสมรรถนะทางทะเลของเวียดนาม
นอกจากนั้น ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดี เจิ่น ได กวาง ของเวียดนามเมื่อวันจันทร์ โอบามายังประกาศยกเลิกข้อห้ามขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้เวียดนามที่ดำเนินมานับสิบปี โดยระบุว่า เวียดนามมีการปรับปรุงด้านสิทธิมนุษยชนระดับพอประมาณ และการตัดสินใจยุติการคว่ำบาตรครั้งนี้ อิงกับการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ไม่ได้เกี่ยวพันกับจีนแต่อย่างใด
ทว่า โกลบัล ไทมส์ หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ในเครือเหรินหมินรึเป้า หนังสือพิมพ์ทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ออกมาประณามเมื่อวันอังคาร ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวพุ่งเป้าที่จีน และว่า โอบามา “โกหกอย่างน่าอดสูมาก” ซึ่งทั้งหมดนี้ฟ้องว่า อเมริกายอมผ่อนคลายมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อดึงเวียดนามร่วมตีกรอบปิดกั้นจีน
“ทำเนียบขาวกำลังฉวยโอกาสจากเวียดนาม เพื่อปลุกปั่นให้ปัญหาในทะเลจีนใต้วุ่นวายมากขึ้น”
ทางด้าน ไชน่า เดลี่ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของทางการจีนก็ร่วมวงโจมตีว่า การเยือนเวียดนามของโอบามาเป็นลางร้ายสำหรับสันติภาพและเสถียรภาพของเอเชีย กล่าวคือ จะทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ซับซ้อนยิ่งขึ้น และเสี่ยงที่จะผลักดันให้ภูมิภาคนี้กลายเป็น “หีบดินชนวนความขัดแย้ง”