เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันร่วงลงแรงราว 1.5 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (1 ก.ย.) ยังถูกกดดันจากข้อมูลเชื้อเพลิงสำรองสหรัฐฯ และแนวโน้มไร้ข้อตกลงตรึงกำลังผลิต ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวก่อนหน้าการเปิดเผยข้อมูลภาคแรงงาน ขณะที่ทองคำฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันลดลง 1.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รัสเซีย ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกโอเปก เคยแย้มถึงความเป็นไปได้ที่จะเข้าร่วมประชุมอย่างไม่เป็นทางการของโอเปกในแอลจีเรีย ทว่าสมาชิกอย่างอิหร่านและอิรักกลับไม่ส่งสัญญาณลดระดับกำลังผลิตลง ทำให้ในวันพฤหัสบดี (1 ก.ย.) มอสโกบ่งชี้เช่นกันว่าพวกเขาอาจไม่ดำเนินการลดกำลังผลิต
ขณะเดียวกัน ตลาดน้ำมันยังอยู่ภายใต้แรงกดดันของข้อมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงพลังงานในวันพุธ (31 ส.ค.) ซึ่งพบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองทางพาณิชย์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.4 เปอร์เซ็นต์ เป็น 525.9 ล้านบาร์เรล สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเกือบ 16 เปอร์เซ็นต์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (1 ก.ย.) ปิดในกรอบแคบๆ ก่อนหน้าการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานประจำเดือนสิงหาคม ที่อาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 18.42 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,419.30 จุด เอสแอนด์พีลดลง 0.09 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,170.86 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 13.99 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,227.21 จุด
จำนวนผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และตลาดงานฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ อาจบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของข้อมูลการจ้างงานประจำเดือนสิงหาคมที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ (2 ก.ย.)
อย่างไรก็ตาม มุมมองในทางบวกถูกกัดเซาะจากรายงานของสถาบันจัดการอุปทาน (ไอเอสเอ็ม) ที่ระบุว่าภาคการผลิตของสหรัฐฯ หดตัวเมื่อเดือนที่แล้ว โดยอ้างอิงดัชนีผู้จัดการจัดซื้อของเดือนสิงหาคม
ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์ (2 ก.ย.) ขยับขึ้นพอสมควร หลังข้อมูลกิจกรรมการผลิตของสหรัฐฯ ฉุดให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,317.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์