เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับลงแรงในวันพุธ (24 ส.ค.) หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ พุ่งขึ้นผิดคาด เพิ่มเติมความกังวลอุปทานล้นตลาดโลก ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ นักลงทุนประเมินความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็ววันนี้ ขณะที่ทองคำแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันลดลง 91 เซ็นต์ ปิดที่ 49.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (24 ส.ค.) ระบุคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลงราวๆ 850,000 บาร์เรล
ตัวเลขดังกล่าวฉุดให้ราคาปรับลง หลังจากที่ปิดบวกเมื่อวันอังคาร (23 ส.ค.) จากข่าวอิหร่านอาจสนับสนุนโอเปกในความพยายามตรึงกำลังผลิต
ด้านตลาดหุ้นในวันพุธ (24 ส.ค.) ปิดลบในกรอบแคบๆ ถูกฉุดโดยหุ้นกลุ่มวัสดุและประกันสุขภาพ ขณะที่นักลงทุนยังคงประเมินความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ดาวโจนส์ลดลง 65.82 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,481.48 จุด เอสแอนด์พีลดลง 11.46 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,175.44 จุด แนสแดคลดลง 42.38 จุด (0.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,217.70 จุด
ตลาดเฝ้ารอถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่แจ็คสันโฮล มลรัฐไวโอมิง ในวันศุกร์นี้ (26 ส.ค.) ที่จะบ่งชี้ถึงทิศทางของนโยบายการเงินของเฟด
ก่อนหน้านี้มีความคิดเห็นแข็งกร้าวมาจากเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วน ในนั้นรวมถึงรองประธานสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ ที่เพิ่มความคาดหมายว่านางเยลเลนอาจส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและฉุดให้ทองคำในวันพุธ (24 ส.ค.) ปิดลบและแตะระดับต่ำสุดในรอบเดือน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 16.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,329.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์