เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอพี - น้ำมันลงหนักในวันจันทร์ (1 ส.ค.) โดยสัญญาสหรัฐฯ จ่อหลุด 40 ดอลลาร์ หลังพบกำลังผลิตโอเปกสูงลิ่ว ปัจจัยนี้ฉุดวอลล์สตรีทปรับลด ขณะที่ทองคำปิดบวกเล็กน้อย คาดเฟดยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 1.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันสัญญาเวสต์เทกซัสขยับลงมาเกือบ 22 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในรอบปีเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน
ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาดหวนคืนมาอีกครั้ง หลังจากรอยเตอร์เผยแพร่ผลสำรวจรายเดือนในวันศุกร์ (29 ก.ค.) ระบุกำลังผลิตในเดือนกรกฎาคมของโอเปกดูเหมือนจะอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
น้ำมันที่ดำดิ่งก่อแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (1 ส.ค.) ต้องหยุดชะงัก หลังช่วงที่ผ่านมาขยับขึ้นต่อเนื่องจนแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี
ดาวโจนส์ลดลง 27.73 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,404.51 จุด เอสแอนด์พีลดลง 2.76 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,170.84 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 22.07 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,184.20 จุด
เอ็กซอน โมบิล และเชฟรอน ปิดลบ 3.1 เปอร์เซ็นต์ และ 3.3 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ กลายเป็นหุ้น 2 ตัวที่ฉุดดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 หนักหน่วงที่สุด ขณะที่ภาคพลังงานของเอสแอนด์พีปิดลบถึง 3.3 เปอร์เซ็นต์ หลังจากราคาน้ำมันร่วงหนักในวันจันทร์ (1 ส.ค.)
ด้านทองคำในวันจันทร์ (1 ส.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดหมายถูกนักลงทุนมองว่าเพียงพอที่จะยับยั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่อาจปรับขึ้นอย่างเร็วที่สุด ณ ที่ประชุมทางนโยบายครั้งต่อไปในเดือนกันยายน โดยตลาดทองคำโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,359.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
