เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่องในวันจันทร์ (8 ส.ค.) จากการช้อนซื้อของนักลงทุนหลังราคาขยับลงอย่างหนักในระยะหลัง ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบตามแรงฉุดของหุ้นประกันสุขภาพ เช่นเดียวกับทองคำที่ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนักในเดือนกรกฎาคม หลังความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดฟื้นคืนและคลังน้ำมันสำรองที่สูงลิ่วในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันกลับมาฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
“ตลาดยังคงฟื้นตัว” จีน แม็คกิลเลียน จากเทรดิชัน เอเนอร์ยี พูดถึงความเคลื่อนไหวของราคาในวันจันทร์ (8 ส.ค.) “เราร่วงลงไปสู่ระดับ 40 ดอลลาร์ และดูเหมือนว่าจะมีการปรับตัวค่อนข้างรุนแรง”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (8 ส.ค.) กลับปรับลดเล็กน้อยจากแรงฉุดหุ้นกลุ่มประกันสุขภาพ แม้น้ำมันฟื้นตัวแรงและข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
ดาวโจนส์ลดลง 14.24 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,529.29 จุด เอสแอนด์พีลดลง 1.98 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,180.89 จุด ส่วนแนสแดคลดลง 7.98 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,213.14 จุด
หลังจากทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลหลายครั้งนับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งได้เห็นเอสแอนด์พี 500 ปรับขึ้นเกือบ 7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2016 นักลงทุนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าค่อนข้างสูงเกินจริง
ขณะเดียวกัน การปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานถูกกัดเซาะจากการดิ่งลงอย่างหนักของภาคประกันสุขภาพ ทั้งนี้จากแรงกดดันของบริสตอล-ไมเยอร์ส, เมอร์ค และแอลเลอร์แกน ส่งผลให้ดัชนีประกันสุขภาพในเอสแอนด์พี 500 ขยับลง 0.9 เปอร์เซ็นต์ ส่วนดัชนีไบโอเทคของแนสแดคปิดลบ 1.1 เปอร์เซ็นต์
ด้านราคาทองคำในวันจันทร์ (8 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ หลังข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มความคาดหมายว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยและดันดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยตลาดทองคำโคเม็กซ์ลดลง 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,341.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์