เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลงกว่า 1 ดอลลาร์และปรับลดเป็นวันที่สามติดต่อกันในวันพุธ (31 ส.ค.) หลังพบคลังสำรองสหรัฐฯ สูงขึ้น ปัจจัยนี้ฉุดวอลล์สตรีทปิดลบ ขณะที่ทองคำทรุดลง ท่ามกลางความคาดหมายว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันลดลง 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลในวันพุธ (31 ส.ค.) เผยให้เห็นว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายเกือบ 2 เท่า สู่ระดับ 525.9 ล้านบาร์เรล สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเกือบ 16 เปอร์เซ็นต์
ราคาน้ำมันที่ดำดิ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน และส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (31 ส.ค.) ปิดแดนลบ ขณะที่เอสแอนด์พีทำสถิติตลอดทั้งเดือนปรับลดเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่กุมภาพันธ์
ดาวโจนส์ลดลง 53.42 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,400.88 จุด เอสแอนด์พีลดลง 5.17 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,170.95 จุด แนสแดคลดลง 9.77 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,213.22 จุด
หุ้นของเอ็กซอนโมบิลปิดลบ 0.6 เปอร์เซ็นต์, เชฟรอนปิดลบ 1.1 เปอร์เซ็นต์ และ ชลัมเบอร์เกอร์ ผู้ประกอบการขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่ ปิดลบ 2.0 เปอร์เซ็นต์
ส่วนหุ้นของแอปเปิลฟื้นตัวขึ้นมาปิดบวก 0.2 เปอร์เซ็นต์ หลังจากร่วงแรงในวันอังคาร (30 ส.ค.) ตามหลังสหภาพยุโรป (อียู) สั่งให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แห่งนี้จ่ายภาษีย้อนหลังในไอร์แลนด์ 13,000 ล้านยูโร
แอปเปิลบอกว่าพวกเขาจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินและแสดงความมั่นใจว่าจะชนะคดีนี้
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (31 ส.ค.) ปิดลบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ท่ามกลางความคาดหมายว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,311.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
