เอเอฟพี - กองกำลังติดอาวุธมุสลิมแนวคิดสุดโต่ง ซึ่งสนับสนุนกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ปฏิบัติการอุกอาจใช้ผู้หญิงทำท่าขอส่งอาหารให้ผู้ต้องขังที่คุกทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ พอยามยอมเปิดประตูให้ ก็กรูกันเข้ายึดเรือนจำ ปลดปล่อยนักโทษออกมาเป็นจำนวน 23 คน ทั้งนี้ ตามคำบอกเล่าของพวกเจ้าหน้าที่ในวันนี้ (28 ส.ค.)
ตามคำบอกเล่าของตำรวจ สมาชิกติดอาวุธเพียบจำนวนราว 50 คนของกลุ่ม “มาอูเต” (Maute) ได้บุกเข้าปล้นเรือนจำท้องถิ่นในเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา แห่งนี้ เมื่อวันเสาร์ (27) และช่วยเหลือปล่อยเพื่อนร่วมกลุ่มของพวกเขาจำนวน 8 คน ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเมื่อราว 1 สัปดาห์ก่อน
ขณะที่ อัคมาด ตาบาว พัสดุเรือนจำจังหวัด แถลงว่า ผู้ต้องขังอื่น ๆ อีก 15 คนซึ่งถูกควบคุมตัวด้วยข้อหาอุกฉกรรจ์อื่น ๆ ก็ได้หลบหนีออกไปจากการบุกโจมตีคราวนี้ด้วย
ก่อนหน้านี้ ตำรวจระบุว่า มีนักโทษ 28 คนหลบหนี แต่ตาบาวแถลงภายหลังการตรวจสอบว่ามี 23 คน
ตามรายงานของตาบาว ระบุว่า มีผู้หญิง 2 คน ไปที่ประตูเรือนจำแห่งนี้ ขอร้องยามผู้หนึ่งให้ช่วยส่งอาหารแก่ผู้ต้องขัง ครั้นเมื่อยามผู้นั้นเปิดประตู กลุ่มชายสวมถุงคลุมหน้าก็กรูกันเข้าไปในเรือนจำ
คนร้ายเหล่านี้บังคับให้พวกยามเรือนจำยอมจำนน ให้พวกเขาคุกเข่าและยึดปืนเล็กยาวไป 2 กระบอก จากนั้นจึงเข้าไปปลดปล่อยนักโทษ
กลุ่มชายสวมถุงคลุมหน้าพากันตะโกนว่า “อัลลอฮุ อักบัร” (พระเจ้าผู้ทรงเกรียงไกร) ก่อนใช้ยานยนต์ของเรือนจำคันหนึ่งเป็นพาหนะหลบหนี มุ่งไปยังทะเลสาบที่อยู่ใกล้ ๆ จากนั้นแก๊งมาอูเตก็หนีต่อโดยใช้เรือ ขณะที่นักโทษอื่น ๆ แยกย้ายกันไป ตาบาว กล่าว
เรือนจำแห่งนั้นเหลือเพียงรูกระสุนปืน 2 รู และเครื่องรับโทรทัศน์ 1 เครื่อง ที่แตกหักเสียหาย เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่ามีการโจมตีเกิดขึ้น
สำหรับสมาชิก 8 คนของกลุ่มมาอูเต ได้ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม หลังจากหน่วยทหารที่ตั้งด่านตรวจแห่งหนึ่ง ค้นพบระเบิดทำเองและปืนพกในรถแวนซึ่งคนเหล่าขับมา
กลุ่มมาอูเต เป็น 1 ในแก๊งชาวมุสลิมหลาย ๆ แก๊งบนเกาะมินดาเนาแต่ครั้งบรรพบุรุษของชนกลุ่มน้อยมุสลิมในฟิลิปปินส์ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นคริสต์ศาสนิกชนนิกายคาทอลิก
กลุ่มนี้เคยก่อเหตุลักพาตัวเรียกค่าไถ่และวางระเบิดอยู่หลายครั้ง อีกทั้งเชื่อกันว่าเป็นผู้นำการโจมตีที่มั่นของทหารแห่งหนึ่งในตำบลบูติก บนเกาะมินดาเนา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การสู้รบที่เกิดขึ้นคราวนั้นกินเวลาถึง 1 สัปดาห์ ทำให้มีผูบาดเจ็บล้มตายจำนวนหนึ่ง และผู้คนหลายพันต้องหลบหนีออกมาจากบ้านเรือน เมื่อทางการใช้เฮลิคอปเตอร์กันชิพออกถล่มขับไล่กลุ่มผู้เข้าโจมตี
ระหว่างการสู้รบที่บาติกนี้เอง ฝ่ายทหารระบุว่า พบเห็นพวกสมาชิกของกลุ่มมาอูเต กำลังถือธงดำของไอเอส และยังพบผ้าพันคอติดตราสัญลักษณ์ของไอเอสหลายผืนในค่ายพักของกลุ่มนี้
ทางด้านเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ระบุว่า กำลังสอบสวนเหตุปล้นคุกคราวล่าสุดนี้ รวมทั้งสาเหตุที่ว่าทำไมไม่มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังจากมีผู้ต้องหาความเสี่ยงสูงถูกนำตัวมาคุมขัง
ครั้งนี้ถือเป็นเหตุปล้นคุกแหกคุกครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์ ซึ่งได้ชื่อว่าเรือนจำมีการรักษาความปลอดภัยที่ย่ำแย่ โดยที่เหตุส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับพวกมุสลิมสุดโต่ง
เมื่อปี 2009 มีกลุ่มชายติดอาวุธจำนวนกว่า 100 คน บุกเข้าโจมตีคุกแห่งหนึ่งในเกาะบาซิลัน ซึ่งก็อยู่ทางภาคใต้ของประเทศ และปลดปล่อยนักโทษออกมา 31 คน ในจำนวนนี้เป็นสมาชิกหน่วยจรยุทธ์มุสลิมหลายคนทีเดียว
ภาคใต้ของฟิลิปปินส์เผชิญการก่อความไม่สงบของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวมุสลิมมากว่า 40 ปีแล้ว โดยความขัดแย้งสู้รบที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 120,000 คน
ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต นั้น กำลังดำเนินการเจรจาสันติภาพกับพวกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบชาวมุสลิมกลุ่มใหญ่ที่สุด ได้แก่ แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร (MNLF) และ แนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (MILF) ซึ่งได้ตกลงหยุดยิงกับฝ่ายรัฐบาล
แต่สำหรับกลุ่มขนาดเล็ก ๆ อย่าง มาอูเต และกลุ่มอาบูไซยาฟ นั้น ไม่ได้รวมอยู่ในข้อตกลงหยุดยิง และก็ไม่ได้อยู่ในกระบวนการเจรจาสันติภาพด้วย