รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - รองนายกรัฐมนตรีเยอรมัน ซิกมาร์ กาเบรียล (Sigmar Gabriel) จากพรรคโซเชียลเดโมแครตเยอรมัน SPD ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ระบุว่า พรรคการเมืองอนุรักษ์สหภาพคริสเตียนเดโมแครต CDU ของนายกรัฐมนตรีหญิงเยอรมัน ประเมินสถานการณ์วิกฤตผู้อพยพต่ำกว่าความเป็นจริง หลังล่าสุดสถาบันวิจัยเยอรมัน IAB ออกรายงานระบุว่า อาจเห็นยอดตัวเลขผู้อพยพเข้าเยอรมันสูงถึง 400,000 ราย ก่อนสิ้นปี 2016
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (28 ส.ค.) ว่า รองนายกรัฐมนตรีเยอรมัน ซิกมาร์ กาเบรียล (Sigmar Gabriel) ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล โซเชียลเดโมแครต SPD ออกมาตำหนินายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล จากพรรคแกนนำรัฐบาลสายอนุรักษ์ สหภาพคริสเตียนเดโมแครต CDU ผ่านสื่อ ZDF เกิดขึ้นในขณะที่เยอรมันเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า
โดยจากผลการศึกษาล่าสุด ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (26 ส.ค.) โดยสถาบันวิจัย “IAB” ซึ่งมีฐานอยู่ในนครเนิร์นแบร์ก (นูเรมเบิร์ก) ของเยอรมนี ระบุจำนวนของผู้อพยพที่ไหลทะลักเข้าสู่เยอรมนี อาจสูงถึง 400,000 รายก่อนสิ้นปี 2016 นี้
และผลการศึกษาล่าสุดของสถาบันวิจัย IAB ยังระบุด้วยว่า บรรดาผู้อพยพที่ไหลบ่าเข้าสู่เยอรมนีนั้น ส่วนใหญ่เป็นแรงงานไร้ฝีมือ ที่ขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพในเยอรมนี และถือเป็นความท้าทายที่สำคัญยิ่งสำหรับรัฐบาลเยอรมันและอีกหลายประเทศในยุโรป ในการจัดการกับการไหลทะลักเข้าประเทศมา ของบรรดาแรงงานไร้ฝีมือเหล่านี้
ซึ่งในขณะนี้มีความวิตกในเยอรมนีเป็นอย่างมาก ถึงปัญหาการปรับตัวของผู้อพยพจากตะวันออกกลาง และแอฟริกา ในการอยู่ภายใต้วัฒนธรรมธรรมเนียมตามแบบเยอรมนี ท่ามกลางความกดดันจากตลาแรงงานซึ่งดูเหมือนว่าจะมีแรงสนับสนุนเทไปยังพรรค AfD ขวาจัดเยอรมัน ที่มีแนวทางต่อต้านการอพยพเข้าเมือง
“ผม และเราต่างพูดกันเสมอว่า เป็นเรื่องที่เกินกว่าจินตนาการสำหรับเยอรมันในการต้องแบกรับผู้อพยพจำนวนนับล้านคนทุกปี” กาเบรียล กล่าวในการให้สัมภาษณ์ซึ่งถูกเผยแพร่ในวันเสาร์ (27 ส.ค.)
สถาบันวิจัย IAB ระบุว่า ในแต่ละเดือนพบว่ามีจำนวนผู้อพยพราว 16,000 คน เดินทางเข้าเยอรมนี เปรียบเทียบกับตัวเลขผู้อพยพจำนวน 200,000 คน ที่เดินทางเข้าประเทศในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา
และในการให้สัมภาษณ์ของรองนายกรัฐมนตรีเยอรมันจากพรรค SPD ยังเลยไปถึงประโยคที่แมร์เคิลใช้ในการแถลงข่าวไปยังประชาชนเยอรมันในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมล่าสุดที่มีเหตุการณ์ตึงเครียดเกิดเหตุไม่สงบขึ้นหลายระลอก ซึ่งในครั้งนั้นแมร์เคิลได้ประกาศว่า “Wir schaffen das” หรือ “เราสามารถทำสิ่งนี้ขึ้นมาได้” และหลังจากนั้นดูเหมือนผู้นำหญิงจากพรรคอนุรักษ์ยังคงใช้เรื่อยมาหลังจากนั้น รอยเตอร์รายงาน
โดยกาเบรียลได้กล่าวโจมตีว่า เพียงแค่ประโยคเดียวที่แมร์เคิลใช้ปลอบประชาชนเมืองเบียร์ยังไม่พอเพียง บรรดาพวกสายอนุรักษ์จำเป็นต้องสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อให้เยอรมนีสามารถเตรียมรับปัญหาได้ และรองนายกรัฐมนตรีเยอรมันยังเสริมต่อว่า แต่พวกสายอนุรักษ์มักจะขัดขวางเพื่อไม่ให้โอกาสนี้เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สำนักงานบริหารกิจการชายแดนของสหภาพยุโรป (ฟรอนเท็กซ์) เปิดเผยว่า ในปี 2015 มีผู้อพยพแบบผิดกฎหมายไหลทะลักเข้าสู่ประเทศสมาชิกอียูมากกว่า 1.83 ล้านราย โดยที่ในจำนวนนี้มีมากกว่า 1 ล้านคน ที่มุ่งหน้าสู่เยอรมนี ขณะที่ตัวเลขผู้อพยพผิดกฎหมายที่เดินทางเข้าสู่อาณาเขตของอียู เมื่อปี 2014 นั้น มีจำนวนเพียง 283,000 รายเท่านั้น
และเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว มีการเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นในเยอรมนี ซึ่งพบว่า ประชากรเมืองเบียร์ส่วนใหญ่ไม่สนับสนุน และไม่เชื่อน้ำยา ว่า นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็ก “อังเกลา แมร์เคิล” จะประสบความสำเร็จในการดำเนินนโยบาย “เปิดประตู” รับผู้อพยพเข้าประเทศ
ผลสำรวจดังกล่าวโดยสำนักวิจัย “YouGov” ที่มีการเผยแพร่ในวันที่ 30 ก.ค. พบข้อมูลที่ระบุ กลุ่มตัวอย่างชาวเยอรมัน ร้อยละ 66 จากจำนวนผู้เข้าร่วมการสำรวจทั้งหมด 1,017 คน ไม่สนับสนุนและไม่เชื่อมั่นในนโยบาย “เปิดประตูรับผู้อพยพเข้าประเทศ” ของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ว่า จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะสมสำหรับเยอรมนี
ผลสำรวจล่าสุดของ YouGov ที่จัดทำขึ้นโดยการรวบรวมความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างทั่วเมืองเบียร์ใน ระหว่างวันที่ 26 - 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า มีชาวเยอรมันในขณะนี้เพียงร้อยละ 27 เท่านั้น ที่สนับสนุนนโยบายนี้ของนางแมร์เคิล
ผลสำรวจที่ออกมาซึ่งมีกลุ่มตัวอย่างชาวเยอรมันสูงถึงร้อยละ 66 ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายรับผู้อพยพเข้าประเทศนั้น ถือเป็นผลสำรวจที่มีสัดส่วนของผู้คัดค้านนโยบายนี้ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ผลสำรวจที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมปีที่แล้ว ที่พบว่า ในเวลานั้นมีชาวเยอรมันร้อยละ 51 ไม่ปลื้มกับนโยบาย “ชักปัญหาเข้าบ้าน” ของนายกรัฐมนตรีหญิงเมืองเบียร์