รอยเตอร์ - แท็กซี่ไร้คนขับที่บริษัทผู้ผลิตอ้างว่าเป็นคันแรกของโลก ได้รับการเปิดตัววิ่งให้บริการประชาชนอย่างจำกัดในเที่ยวทดสอบบนท้องถนนสายต่างๆ ของสิงคโปร์เมื่อวันพฤหัสบดี (25 ส.ค.) ตั้งเป้าวิ่งให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2018
นูโตโนมี ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับยานพาหนะไร้คนขับ ได้เชิญประชาชนกลุ่มหนึ่งให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของพวกเขาและลองขึ้น Robo-Taxi หรือรถแท็กซี่ไร้คนขับแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ในย่านธุรกิจไฮเทคทางตะวันตกของสิงคโปร์ เพื่อรับฟังผลตอบรับ (feedback) ก่อนหน้าแผนนำเข้าสู่การบริการอย่างเป็นทางการและเต็มรูปแบบในปี 2018
“นี่คือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง ที่กำลังจะเปลี่ยนโครงสร้างของเมืองและมุมมองต่อสิ่งที่อยู่ล้อมรอบตัวเรา” ดัก ปาร์เกอร์ บอกกับรอยเตอร์
ในเที่ยวทดสอบของรถยนต์ไฟฟ้า มิตซูบิชิ i-MiEv จะมีวิศวกรคนหนึ่งนั่งอยู่หลังพวงมาลัยเพื่อสังเกตการณ์ระบบและเข้าควบคุมรถทันทีในกรณีที่จำเป็น
นูโตโนมีเผยว่า การทดสอบนี้อยู่บนพื้นฐานของการทดลองอย่างต่อเนื่อง และตามหลังการทดสอบแบบปิดที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายน
ปาร์เกอร์ ที่จับมือกับรัฐบาลสิงคโปร์ในโครงการนี้ แสดงความหวังว่าจะมีแท็กซี่ไร้คนขับวิ่งให้บริการเชิงพาณิชย์ 100 คันในสิงคโปร์ภายในปี 2018
นูโตโนมีเป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่เข้าสู่การแข่งขันตลาดรถยนต์ไร้คนขับ ท่ามกลางเหล่าผู้ผลิตรถยนต์และบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งที่บรรลุข้อตกลงจับมือกันเป็นพันธมิตร
ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วอลโว่ เอบี ผู้ผลิตรถยนต์ของสวีเดน เพิ่งบรรลุข้อตกลงมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ในการเป็นพันธมิตรกับอูเบอร์สำหรับพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ
ส่วนโมบายล์อาย เอ็นวี (Mobileye NV) ผู้นำระดับโลกในการพัฒนาระบบช่วยเหลือด้านทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่ เผยว่ารถยนต์ของเขาที่พัฒนาร่วมกับ เดลฟาย ออโตโมทีฟ พีแอลซี จะพร้อมผลิตในปี 2019 ขณะที่ฟอร์ด มอเตอร์ โค. ระบุว่ามีกำหนดเปิดตัวรถยนต์ไร้คนขับในปี 2021