รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ ระบุในวันพุธ (24 ส.ค.) ว่า เรือของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ได้รังควานเรือรบของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร บริเวณใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ ท่ามกลางความกังวลของวอชิงตันเกี่ยวกับท่าทีของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซียและในสงครามซีเรีย
เจ้าหน้าที่ผู้ขอไม่เปิดเผยนาม ระบุว่า มีเรือของอิหร่าน 2 ลำ แล่นเข้ามาในระยะ 300 หลา ของเรือ “ยูเอสเอส นิตเซ” ซึ่งถือว่าไม่ปลอดภัยและไม่มีความเป็นมืออาชีพ
“เรืออิหร่านทั้งสองลำได้รังควานเรือพิฆาตของสหรัฐฯ โดยทำการเข้าสกัดกั้นด้วยความเร็วสูง ทั้งยังเข้ามาในระยะใกล้ของเรือนิตเซ ทั้งที่มีการเตือนแล้วหลายครั้ง” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าว
เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ ระบุถึงเหตุการณ์เมื่อวันอังคาร ว่า เรือของอเมริกาพยายามสื่อสารกับเรืออิหร่านถึง 12 ครั้ง แต่ไม่มีการตอบกลับมา จึงมีการยิงพลุไฟ 10 ลูกไปทางเรืออิหร่านทั้งสองลำ
พวกอิหร่านเข้ามาใกล้มาก ก่อให้เกิดสถานการณ์ที่อันตราย ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งรวมถึงมาตรการป้องกันตัวของนิตเซ” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าว
เขาบอกด้วยว่า เรือนิตเซต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อรักษาระยะห่างกับเรืออิหร่าน เหตุการณ์ครั้งนี้ คงจะนำไปสู่การประท้วงทางการทูต อย่างไรก็ตาม อเมริกานั้นไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 มกราคม ตอนนั้นทหารเรือสหรัฐฯ 10 นาย เคยถูกอิหร่านควบคุมตัวไว้ ตอนที่เข้าไปในน่านน้ำของอิหร่านแบบไม่ตั้งใจ พวกเขาได้รับการปล่อยตัวในวันต่อมา หลังจากถูกคุมขังไว้ 15 ชั่วโมง
อ่าวเปอร์เซียได้กั้นแบ่งอิหร่านออกจากอริในภูมิภาคอย่างซาอุดีอาระเบีย รวมถึงฐานทัพสหรัฐฯ ที่อยู่ในบาห์เรน