เอเอฟพี - กลุ่มญิฮัดรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในวันจันทร์ (15 ส.ค.) ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สังหารนักรบกบฏมากกว่า 30 ศพ ในเหตุโจมตีใกล้ชายแดนตุรกีเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ถ้อยแถลงของไอเอสที่เผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์ และเทเลแกรม ระบุว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายได้จุดชนวนเข็มขัดระเบิดท่ามกลางนักรบกบฏที่กำลังเตรียมตัวมาสู้รบกับพวกเขา
เหตุระเบิดเมื่อวันอาทิตย์ (14 ส.ค.) เกิดขึ้นบริเวณจุดผ่านแดนอัตเม ระหว่างตุรกีกับจังหวัดอิดลิบ ทางเหนือของซีเรีย กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียระบุ
องค์การเฝ้าระวังกลุ่มนี้เผยว่านักรบฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกำลังเดินทางด้วยรถบัสไปยังตุรกี แต่จากนั้นก็เลี้ยวกลับเข้าสู่ซีเรียมุ่งหน้าสู่เมืองอาซาซ ในจังหวัดอเลปโป ฐานที่มั่นของฝ่ายกบฏ
“เหตุโจมตีครั้งนี้สังหารนักรบกบฏ 32 คนขณะที่พวกเขากำลังเข้าสู่ตุรกี” กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียระบุ ปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตจากเดิมอยู่ที่ 15 ศพเมื่อวันอาทิตย์ (14 ส.ค.) ขณะที่นายรามี อับเดล ราห์มัน ผู้อำนวยการองค์การแห่งนี้เผยว่า ยอดเหยื่ออาจสูงกว่านี้อีกเนื่องจากยังมีนักรบอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ไอเอสระบุในถ้อยแถลงว่ามีนักรบกบฏเสียชีวิตจากเหตุโจมตีเกือบ 50 คน และกล่าวหาพวกเขาว่ารับคำสั่งจากพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ต่อต้านไอเอสในอิรักและซีเรีย
กลุ่มไอเอสพยายามรุกคืบเข้าสู่ดินแดนของฝ่ายกบฏในจังหวัดอะเลปโปมานานหลายเดือน โดยเฉพาะที่เมืองอาซาซและมาเรียที่อยู่ใกล้ๆ กัน
ในปฏิบัติการจู่โจมครั้งใหญ่เมื่อเดือนพฤษภาคม ไอเอสสามารถปิดล้อมเมืองมาเรีย แต่เดือนต่อมากบฏก็โต้กลับและผลักดันไอเอสออกไปได้หลังได้รับความช่วยเหลือด้านกระสุนจากพันธมิตร
จนถึงตอนนี้มีผู้คนแล้วกว่า 290,000 รายที่ต้องมาจบชีวิตในสงครามซีเรีย นับตั้งแต่ความขัดแย้งปะทุขึ้นในเดือนมีนาคม 2011