รอยเตอร์ - ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา รัฐบาลเยอรมันมีแผนที่จะประกาศให้ประชาชนชาวเยอรมันทำการกักตุนอาหารและน้ำสะอาดที่ทำให้อยู่ได้ภายใน 10 วัน เตรียมรับการโจมตีกลุ่มก่อการร้ายหากเกิดขึ้น หนังสือพิมพ์เยอรมัน Frankfurter Allgemeine รายงานในฉบับวันอาทิตย์ล่าสุด
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(21 ส.ค)ว่า การรายงานของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเยอรมัน หนังสือพิมพ์เยอรมัน Frankfurter Allgemeine ในวันอาทิตย์(21 ส.ค)ระบุว่า เบอร์ลินมีแผนที่จะประกาศให้ประชาชนชาวเยอรมันเตรียมความพร้อมในเหตุการณ์คับขันด้วยการทำการกักตุนอาหารและน้ำสะอาดในยามจำเป็น
โดยขณะนี้พบว่าแดนเมืองเบียร์ยังคงอยู่ในภาวะเตือนภัยสูงสุดหลังจากในเดือนที่ผ่านมาเกิดเหตุไม่คาดฝันถูกกล่มก่อการร้าย IS โจมตีถึง 2 ครั้งและเกิดเหตุอุกอาจกราดยิงในที่ชุมชน
ซึ่งเหตุไม่คาดฝันเหล่านี้ทำให้ต้นเดือนสิงหาคม ทางรัฐบาลเยอรมันของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลได้ประกาศแผนการเพิ่มงบประมาณให้กับตำรวจเยอรมัน พร้อมกับตั้งหน่วยงานใหม่ต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์และก่อการร้าย
“ประชาชนมีหน้าที่ต้องทำการเตรียมอาหารและน้ำสะอาดพอเพียงเป็นเวลาสำหรับ 10 วัน” Frankfurter Allgemeine รายงานโดยอ้างนโยบายพลเมืองปกป้องตนเอง ที่เป็นแนวคิดออกมาจากกระทรวงมหาดไทยเยอรมัน
และยังรายงานเพิ่มเติมว่า พบว่่าทางรัฐสภาเยอรมันได้อนุญาตยุทธศาสตร์การรับมือของพลเมืองเยอรมันปกป้องตัวเองครั้งแรกในปี 2012
ในขณะที่โฆษกกระทรวงไทยเยอรมันได้ออกมาเปิดเผยในเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า ทางกระทรวงจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพุธ(24 ส.ค)ที่จะถึงนี้ โดยตัวรัฐมนตรีมหาดไทยเยอรมันจะเป็นผู้แถลงในเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
สื่อเยอรมันรายงานเพิ่มเติมต่อว่า อ้างอิงจากแผนการ พลเมืองเยอรมันมีหน้าที่ต้องกักตุนอาหารและน้ำสะอาดให้เพียงพอสำหรับ 5 วัน
แต่อย่างไรก็ตาม จากรายงานที่ถูกจัดทำ 69 หน้าไม่ได้ระบุถึงการโจมตีในดินแดนเยอรมัน ที่ต้องการให้มีการปกป้องดินแดนตามรูปแบบปกติทั่วไป แต่กระนั้นในรายงานนี้ได้เตือนว่า มาตรการนี้ที่ออกคำสั่งให้ประชาชนเตรียมความพร้อมเพื่อสถานการณ์ที่เลวร้ายที่เป็นภัยต่อประชาชน และยังไม่สามารถชี้ว่าจะไม่เกิดเหตุอีกต่อไปในอนาคต
และในรายงานยังได้กล่าวต่อ ถึงความจำเป็นในมาตรการเร่งด่วน เป็นต้นว่า ตึกที่มีโครงสร้างปลอดภัย และระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ และส่วนมาตรการอื่นๆนั้น เห็นควรให้พลเรือนเข้ามาเป็นกำลังเสริมให้หน่วยงานความมั่นคงเยอรมัน
