รอยเตอร์ - เฟราเคอ เปตรี (Frauke Petry) ผู้นำหญิงพรรคการเมืองขวาจัดเยอรมัน Afd ประกาศสนับสนุนในวันเสาร์ (20 ส.ค) สนับสนุนให้พลเมืองเยอรมันสามารถมีอาวุธปืนและสิ่งที่สามารถใช้ปกป้องตัวเองได้ หลังจากเยอรมนีเกิดเหตุสลดเขย่าขวัญอย่างต่อเนื่องในเดือนที่ผ่านมา
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ว่า พรรคการเมืองขวาจัดเยอรมัน Afd ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในเยอรมนีหลังจากแดนเมืองเบียร์ประสบปัญหาผู้อพยพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมามีผู้อพยพจำนวนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนเดินทางเข้าสู่ประเทศ โดยในขณะนี้พบว่าพรรค Afd ประสบความสำเร็จสามารถมีที่นั่งใน 8 รัฐจากทั้งหมด 16 รัฐทั่วประเทศ
รอยเตอร์รายงานต่อว่า หลังเกิดเหตุกลุ่มก่อการร้าย IS โจมตี 2 ครั้ง และรวมไปถึงการก่อเหตุกราดยิงสะเทือนขวัญจากวัยรุ่นผู้อพยพที่มีสุขภาพจิตบกพร่องในช่วงเดือนล่าสุด ทำให้เยอรมนีทั้งประเทศต้องอยู่ในความตึงเครียด และดูเหมือนว่าพรรคการเมืองขวาจัด Afd จะสามารถกวาดคะแนนเสียงเพิ่มมากขึ้นในการเลือกตั้งในกรุงเบอร์ลิน และ เม็กเลนเบิร์ก-วอร์พอมเมิร์น (Mecklenburg-Vorpommern)
ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อฟุงเคอมีเดียกรุ๊ป (Funke Media Group) ที่ถูกตีพิมพ์ในวันเสาร์ (20 ส.ค.) เฟราเคอ เปตรี (Frauke Petry) หัวหน้าพรรค Afd กล่าวให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “มีคนจำนวนมากรู้สึกไม่ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งพลเมืองของประเทศสมควรได้รับอนุญาตให้ป้องกันตนเอง ครอบครัว และเพื่อนฝูงได้ตามกฎหมาย”
และเธอยังกล่าวให้ความเห็นต่อว่า “พวกเราต่างทราบดีเช่นไรว่าตำรวจเยอรมันใช้เวลานานเท่าใดในการต้องเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งชุมชนหนาแน่น”
รอยเตอร์รายงานว่า เปตรีมีชื่อเสียงโด่งดังไปเมื่อต้นปีนี้ เมื่อเธอได้ออกมาเรียกร้องให้ตำรวจเยอรมันสามารถได้รับอนุญาตใช้อาวุธกับกลุ่มผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย และนอกไปจากนี้เธอยังปฏิเสธข้อเรียกร้องออกมาในความต้องการทำให้กฎหมายอาวุธปืนเข้มงวดมากขึ้น
เยอรมนีถือเป็นชาติที่ควบคุมกฎหมายอาวุธปืนเข้มงวดมากที่สุดในยุโรป ผู้ขออนุญาตมีอาวุธได้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี พร้อมกับเหตุผลที่ต้องการมีอาวุธ ซึ่งพบว่าจำนวนใบอนุญาตผู้ยื่นขอการมีอาวุธปืนแบลงค์กัน (Blank Guns) และสเปรย์พริกไทยเพิ่มอย่างก้าวกระโดดถึง 49% ในครึ่งแรกของปี 2016 หรือราว 402,301 คน อ้างอิงจากสถิติแห่งชาติเยอรมนี
แต่อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ขอการมีอาวุธปืนได้ลดลง รอยเตอร์ชี้ อยู่ที่ 1.894 ล้านคนในสิ้นเดือนมิถุนายนล่าสุด เปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้านี้ที่ 1.898 ล้านคน