เอเอฟพี - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศยกฟ้องอดีตสมาชิกหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ “ซีล” ซึ่งเขียนหนังสือเล่าประสบการณ์ของตนขณะร่วมภารกิจสังหาร อุซามะห์ บินลาดิน หลังจากที่ทหารนายนี้ยอมยกผลกำไรจากการขายหนังสือทั้งหมดให้แก่รัฐ
โรเบิร์ต ลัสกิน ทนายความของ แม็ตต์ บิสซอนเน็ตต์ ซึ่งได้เขียนหนังสือ “No Easy Day” ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 2012 ยืนยันกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) ว่า ลูกความของตนได้บรรลุข้อตกลงยอมความขั้นสุดท้ายกับรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นิโคล นาวาส โฆษกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงก่อนหน้านั้นว่า “คุณบิสซอนเน็ตต์ยินยอมที่จะยกผลกำไรจากการจำหน่ายหนังสือ No Easy Day ทั้งในอดีตและอนาคต ให้แก่รัฐบาลสหรัฐฯ”
ลัสกิน ระบุเพิ่มเติมว่า บิสซอนเน็ตต์ จะต้องจ่ายเงินราว 6.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์หนังสือ และค่าตัวที่เขาได้รับจากการได้รับเชิญไปพูดตามสถานที่ต่างๆ ให้แก่ทางการสหรัฐฯ ด้วย
รัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้เอาผิดทางกฎหมายกับ บิสซอนเน็ตต์ ฐานตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับภารกิจสังหารอดีตผู้นำอัลกออิดะห์โดยไม่ได้รับอนุญาต และยังละเมิดข้อตกลงห้ามเปิดเผยความลับของรัฐบาล
“ช่วงแรกๆ ผมถูกกล่าวหาว่าเอาข้อมูลชั้นความลับมาเปิดเผย... แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่พบอะไร” บิสซอนเน็ตต์ ให้สัมภาษณ์ต่อเว็บไซต์เดลีบีสต์
“พวกเขาเพียงแค่ไม่พอใจในสิ่งที่ผมทำ และอยากจะเล่นงานผมด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง... ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาพวกเขาพยายามหาช่องทางทุกอย่าง แต่มาถึงวันนี้... แค่ผมเซ็นกริ๊กเดียว ทุกอย่างก็จบ”
รัฐบาลโอบามาถูกวิจารณ์ว่าใช้ “2 มาตรฐาน” เพราะในขณะที่ บิสซอนเน็ตต์ ถูกทางการไล่บี้อย่างหนัก เจ้าหน้าที่เพนตากอนกลับอธิบายรายละเอียดของปฏิบัติการสังหาร บินลาดิน ให้แก่ มาร์ก โบล ผู้เขียนบทภาพยนตร์ “Zero Dark Thirty” ซึ่งออกฉายเมื่อปี 2012 อย่างละเอียดยิบ
การทำงานของหน่วยซีลและหน่วยคอมมานโดของสหรัฐฯ ถือว่าเป็นภารกิจลับ และโดยมารยาทเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็จะไม่บอกเล่ารายละเอียดของภารกิจที่ผ่านมาให้สาธารณชนรับทราบ
