เอเจนซีส์ - สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) “ไลฟ์ทวีต” ปฏิบัติการล่าสังหาร อุซามะห์ บิน ลาดิน อดีตผู้นำสูงสุดอัลกออิดะห์ ราวกับเป็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นจริง เพื่อฉลองครบรอบ 5 ปีที่ บินลาดิน ถูกปลิดชีพ ขณะที่ จอห์น เบรนแนน ผอ.ซีไอเอ ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) ว่า หากสหรัฐฯ สามารถเด็ดหัวผู้นำกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้อีกคนก็จะสร้าง “ผลกระทบที่ใหญ่หลวง” อีกครั้ง
เบรนแนน เตือนว่า อัลกออิดะห์ยังเป็นเครือข่ายก่อการร้ายที่มีพิษสงอยู่ และไอเอสก็ไม่ใช่แค่ “องค์กร” ทว่า เป็น “ปรากฏการณ์”
“เราทำลายอัลกออิดะห์ได้ส่วนใหญ่ แต่พวกเขายังไม่ถูกกำจัด เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องเฝ้าจับตาดูว่าพวกเขาจะทำอะไรอีกบ้าง” เบรนแนน ให้สัมภาษณ์ในรายการ Meet the Press ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี
“และปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้น (ไอเอส) ก็จะเป็นภัยคุกคามต่อเราไปตลอดหลายปีข้างหน้า”
เมื่อพิธีกรถามว่า การปลิดชีพ อบูบาการ์ อัล-บักดาดี ผู้นำสูงสุดของไอเอส มีความสำคัญเทียบเท่ากับ บิน ลาดิน หรือไม่ ผอ.ซีไอเอซึ่งไม่ออกมาให้สัมภาษณ์บ่อยนักก็ตอบตรงๆ ว่า “เขาเป็นคนสำคัญ และเราก็จะต้องทำลายไอเอสให้สิ้นซาก ผมไม่สงสัยในข้อนี้เลย เราต้องกำจัดพวกแกนนำที่เป็นคนสั่งการให้นักรบไอเอสลงมือก่อเหตุ”
“ถ้าเรากำจัด บักดาดี ได้สำเร็จ ผมเชื่อว่าจะสร้างผลกระทบใหญ่หลวงต่อไอเอส และพวกเขาจะต้องรู้สึกได้แน่”
“อย่างไรก็ตาม ไอเอสเป็นอะไรที่กว้างขวาง ไม่ใช่แค่องค์กร แต่เป็นปรากฏการณ์ พวกเขาไม่ได้กระจุกอยู่ในซีเรียหรืออิรักเท่านั้น แต่ยังแผ่อิทธิพลไปถึงลิเบีย ไนจีเรีย และประเทศอื่นๆ เราจึงต้องให้ความสำคัญต่อการทำลายทุกองค์ประกอบของไอเอส”
เมื่อวานนี้ (1) เอฟบีไอได้สร้างแฮชแท็ก #UBLRaid และไลฟ์ทวีตความคืบหน้าของปฏิบัติการปลิดชีพบิน ลาดิน ที่เมืองอับบอตตาบัดของปากีสถาน เหมือนที่เกิดขึ้นจริงเมื่อ 5 ปีที่แล้ว รวมถึงภาพถ่ายบิน ลาดิน ที่ทั่วโลกคุ้นเคย และภาพประธานาธิบดีบารัค โอบามา กับคณะเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังเฝ้าชมเหตุการณ์สดๆ อยู่ภายในห้อง Situation Room
“3.39 pm EDT - อุซามะห์ บิน ลาดิน ถูกพบที่ชั้น 3 และถูกสังหารแล้ว #UBLRaid” ข้อความหนึ่งระบุ
อย่างไรก็ตาม กระแสตอบรับจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่กลับเป็นไปในเชิงลบ โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งวิจารณ์การกระทำของซีไอเอว่า “วิตถารและน่าละอาย” ส่วนคนอื่นๆ ก็ใส่ภาพเคลื่อนไหวเป็นรูปคนกลอกตา หรือไม่ก็เอามือปิดหน้า