เอเอฟพี - อดีตสมาชิกหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ “ซีล” ซึ่งรับผิดชอบปฏิบัติการเด็ดหัว อุซามะห์ บิน ลาดิน แอบถ่ายภาพร่างไร้วิญญาณของผู้นำอัลกออิดะห์ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ส่งมอบฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์ที่บันทึกภาพดังกล่าวให้แก่พนักงานสอบสวนสหรัฐฯ แล้ว เว็บไซต์ข่าว ดิ อินเตอร์เซ็ปต์ รายงานเมื่อวานนี้ (19 ม.ค.)
การเปิดโปงข้อมูลครั้งนี้มีขึ้นหลังจาก แมทธิว บิสซอนเน็ตต์ ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ลั่นไกสังหาร บิน ลาดิน ตายคาบ้านพักในเมืองอับบอตตาบัดระหว่างปฏิบัติการบุกรุกน่านฟ้าปากีสถานเมื่อปี 2011 ได้ส่งมอบสำเนาฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์แก่พนักงานสอบสวนสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ บิสซอนเน็ตต์ก็ถูกสอบสวนในข้อหาเปิดเผยข้อมูลชั้นความลับของรัฐบาลลงในหนังสือ “No Easy Day” ที่เขาเขียนเล่าเรื่องราวในวันล่าสังหารผู้นำอัลกออิดะห์
แหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการสอบสวน 2 คนเผยกับดิ อินเตอร์เซ็ปต์ ว่า บิสซอนเน็ตต์ตัดสินใจส่งมอบฮาร์ดไดรฟ์ให้แก่พนักงานสอบสวน เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดีฐานครอบครองวัสดุชิ้นนี้
ดิ อินเตอร์เซ็ปต์รายงานว่า ข้อมูลในฮาร์ดไดรฟ์มีทั้งภาพถ่ายบิน ลาดิน และเอกสารที่ให้รายละเอียดว่าบิสซอนเน็ตต์เคยทำงานเป็นที่ปรึกษา พร้อมๆ กับรับราชการในหน่วยซีลทีม 6 (SEAL Team 6)
รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เคยเผยแพร่ภาพศพของบิน ลาดิน และยืนยันว่าร่างผู้นำอัลกออิดะห์ถูกนำไปประกอบพิธีฝังในทะเล หลังจากถูกหน่วยซีลปลิดชีพไม่นานนัก
ประธานาธิบดี บารัค โอมาบา ได้อ้างถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคง และเตือนว่าอเมริกาไม่ควรโอ้อวด “ถ้วยรางวัล” แห่งชัยชนะครั้งนี้
โรเบิร์ต ลัสกิน ทนายของบิสซอนเน็ตต์ ให้สัมภาษณ์กับดิ อินเตอร์เซ็ปต์ ว่า ลูกความของเขาเคยถูกสอบปากคำมาแล้ว แต่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตัดสินใจปิดคดีลงเมื่อเดือน ส.ค.
ลัสกินยังอ้างว่าเป็นคนเจรจาต่อรองกับทางการสหรัฐฯ เมื่อปี 2014 ให้บิสซอนเน็ตต์มอบรายได้ส่วนหนึ่งจากผลกำไรหลายล้านดอลลาร์ในการจำหน่ายหนังสือ No Easy Day ให้แก่รัฐบาล แต่ไม่กล่าวถึงภาพศพ บิน ลาดิน ที่เป็นข่าวล่าสุด และไม่ยืนยันว่ากระบวนการสอบสวนยังคงดำเนินอยู่หรือไม่
นอกจากภาพศพผู้นำอัลกออิดะห์แล้ว ข้อมูลบางส่วนในฮาร์ดไดรฟ์ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงละเว้นดำเนินคดี ดังนั้น หน่วยสอบสวนอาชญากรรมกองทัพเรือ (Naval Criminal Investigative Service) จึงเข้ามาสอบสวนขยายผลเพื่อดูว่าบิสซอนเน็ตต์เคยใช้ความเป็นสมาชิกหน่วยซีลเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทซัปพลายเออร์ด้านอาวุธหรือไม่