ตราด - ตำรวจ สภ.ตราด นำตัวอดีตทหารหน่วยซีลทำแผนชิงทอง เผยหลังก่อเหตุหนีไปซ่อนในห้องเก็บโลงศพ ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ รอเวลาค่ำมืดไม่มีใครเห็นหนีขึ้นรถไประยอง อยุธยา และประเทศพม่า พร้อมขอโทษเจ้าของ
จากกรณีที่คนร้ายใช้หินทุบกระจกก่อนชิงทองคำรูปพรรณประมาณ 60 บาท ของร้านทองแสงทอง ถนนสุขุมวิท ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2558 และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ที่ลงมือก่อเหตุได้
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (21 ม.ค.) พ.ต.อ.สุจินต์ มีกะจิตต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พ.ต.อ.บุญส่ง ปีกขุนทด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตราด นำตัว นายมนตรี มนต์ศิริ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/4 ม.5 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นอดีตทหารหน่วยซีล สังกัดกองทัพเรือ ที่ปลดประจำการแล้ว มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพชิงทองคำร้านทองแสงทอง ถนนสุขุมวิท ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด
โดยการทำแผนเริ่มต้นจากจุดแรกคือ จุดที่นายมนตรี หลบซ่อนตัวบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองตราด 1 คืน จากนั้นวันรุ่งขึ้นได้เดินสำรวจร้านทองในตลาดเทศบาลเมืองตราดว่ามีร้านไหนที่สามารถทุบกระจกได้ง่าย จนพบเป้าหมายคือ ร้านทองแสงทอง ก่อนจะใช้ก้อนหินบริเวณใกล้เคียงทุบตู้กระจกพร้อมหยิบทองไป จำนวน 13 เส้น แล้วหลบหนีเข้าทางตลาดสดเมืองตราด ทะลุไปออกหน้าโรงเรียนเทศบาลวิมลวิทยา แล้วไปหลบซ่อนตัวภายในห้องเก็บโลงศพของสมาคมตราดพุทธสงเคราะห์ จังหวัดตราด และรอเวลาให้มืดแล้วออกมาขึ้นรถทัวร์หลบหนีไปจังหวัดระยอง เพื่อนำทองคำไปขาย
จากนั้นได้ต่อรถไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อไปหาแฟนสาวขอแต่งงาน พร้อมได้หลบหนีไปซ่อนตัวที่สุดท้ายที่บ้านญาติ ที่เมืองสะปุง ประเทศพม่า และถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ เวลา 17.00 น. ที่บ้านแฟนสาว ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะเดินทางมาหาแฟนสาว ซึ่งระหว่างที่ทำแผนที่ร้านทอง นายมนตรี ได้กล่าวขอโทษต่อเจ้าของร้านทองแสงทอง ต่อการกระทำในครั้งนี้
พ.ต.อ.บุญส่ง ปีกขุนทด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้วได้สั่งการให้ชุดสายตรวจเพิ่มความถี่ในการตรวจตามร้านทองต่างในตัวเมืองตราด พร้อมกับเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกระดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำให้ร้านทองทุกร้านติดตั้งกลองวงจรปิดที่สามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน สามารถเห็นผู้ที่มาติดต่อซื้อขายทองได้ดี เพื่อช่วยเป็นเบาะแสหากเกิดเหตุร้ายในครั้งต่อไป