เอเอฟพี - กลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ ส่งฝูงบินขับไล่เข้าไปช่วยปกป้องทหารอเมริกันซึ่งปฏิบัติภารกิจเป็นที่ปรึกษาให้แก่กองกำลังเคิร์ดในซีเรีย หลังถูกกองทัพอากาศของดามัสกัสทิ้งบอมบ์ถล่ม กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันศุกร์ (19 ส.ค.)
เมื่อวันพฤหัสบดี (18) เครื่องบินขับไล่ SU-24 ของกองทัพซีเรียจำนวน 2 ลำได้ล็อกเป้าถล่มกองกำลังเคิร์ด ซึ่งกำลังฝึกซ้อมร่วมกับหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ ที่เมืองฮาซาเกห์ (Hasakeh) ทางตอนเหนือของซีเรีย
สหรัฐฯ และพันธมิตรได้ส่งเครื่องบินขับไล่เข้าไปยังเมืองดังกล่าวเพื่อสกัดเครื่องบินรบของซีเรีย แต่เมื่อไปถึงก็พบว่าเครื่องบินซีเรียได้จากไปแล้ว
“นี่คือมาตรการปกป้องบุคลากรของกลุ่มพันธมิตร” เจฟฟ์ เดวิส โฆษกเพนตากอน แถลง
“เราจะรับรองความปลอดภัยให้แก่พวกเขา และขอเตือนรัฐบาลซีเรียว่าอย่ากระทำการใดๆ ที่จะก่อความเสี่ยงแก่คนเหล่านี้... ซึ่งเราถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุด และเรามีสิทธิที่จะปกป้องตนเอง”
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายซีเรียได้ทำหูทวนลมไม่ใส่ใจคำเตือน โดยเช้าวานนี้ (19) เครื่องบินขับไล่ซีเรีย 2 ลำได้บินเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวอีก แต่ถูกเครื่องบินของกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ สกัดไว้ได้
“การปรากฏตัวของเครื่องบินจากกลุ่มพันธมิตรทำให้เครื่องบินของซีเรียยอมล่าถอยกลับไป โดยไม่มีเหตุกระทบกระทั่ง... และนักรบฝ่ายพันธมิตรสหรัฐฯ ก็ไม่ได้ยิงอาวุธใดๆ ออกไป” เจ้าหน้าที่เพนตากอนอีกคนหนึ่ง ระบุ
พื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองฮาซาเกห์ถูกควบคุมโดยกองกำลังเคิร์ด ส่วนที่เหลืออยู่ในความดูแลของนักรบที่ซื่อสัตย์ภักดีต่อประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย
ตั้งแต่วันพุธ (17) เป็นต้นมา ได้เกิดเหตุปะทะอย่างรุนแรงระหว่างกองกำลังทั้ง 2 กลุ่มนี้ เป็นเหตุให้พลเรือน 23 คน รวมถึงเด็กๆ 9 คน และนักรบอีก 16 คนเสียชีวิต ตามข้อมูลจากศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานที่กรุงลอนดอน
เดวิส ยืนยันว่า ไม่มีรายงานบุคลากรของกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ เสียชีวิตจากเหตุโจมตีทางอากาศเมื่อวันพฤหัสบดี (18) และที่ปรึกษาทหารอเมริกันได้อพยพไปยังสถานที่ปลอดภัยแล้ว
กองทัพซีเรียได้แถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กองกำลังเคิร์ดซึ่งปิดล้อมเมืองฮาซาเกห์ได้ยิงปืนใหญ่ถล่มชาวบ้านและทหารเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก กองทัพซีเรียจึง “ใช้มาตรการตอบสนองที่เหมาะสม” ด้วยการ “ล็อกเป้าทำลายจุดที่ปืนใหญ่ถูกยิงออกมา และฐานที่มั่นของกลุ่มบุคคลซึ่งต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมเหล่านี้”
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียระบุว่า ชาวบ้านหลายพันคนเริ่มเก็บข้าวของหนีตายออกจากเมืองฮาซาเกห์แล้ว เนื่องจากอาหารเริ่มขาดแคลน และมีการตัดไฟฟ้า
เหตุการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (18) ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลซีเรียใช้วิธีโจมตีทางอากาศต่อกองกำลังเคิร์ด
ทันทีที่การโจมตีเริ่มขึ้น ทหารภาคพื้นดินเคิร์ดได้พยายามสื่อสารกับนักบินแต่ไม่สำเร็จ ทหารอเมริกันจึงลองติดต่อไปยังรัสเซียซึ่งปฏิบัติภารกิจโจมตีในซีเรียมาระยะหนึ่งแล้วเพื่อปกป้องรัฐบาลอัสซาด และได้รับคำตอบจากทหารหมีขาวว่า เครื่องบินรบเหล่านั้นเป็นของซีเรีย
“เป็นเรื่องแปลกมาก เราไม่เคยเห็นรัฐบาลซีเรียใช้วิธีโจมตีเช่นนี้ต่อกองกำลังเคิร์ด YPG มาก่อน” เดวิส กล่าว
แม้รัฐบาลอัสซาดและกองกำลังเคิร์ดจะมีศัตรูร่วมกันอยู่ คือกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งยึดครองหุบเขายูเฟรติสทางภาคใต้ของซีเรียไว้เกือบทั้งหมด แต่กองกำลังทั้ง 2 ฝ่ายในเมืองฮาซาเกห์ก็มีเรื่องบาดหมางกันอยู่ จนบ่อยครั้งที่ถึงขั้นปะทะกันด้วยอาวุธ