รอยเตอร์ - สหรัฐฯรวบรวมรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม จากอีก 11 ประเทศ เพื่อร่วมกันหารือในวันพุธ (4) เกี่ยวกับหนทางเพิ่มประสิทธิภาพปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) หนึ่งวันหลังจากที่นาวิกโยธินกองทัพเรือสหรัฐฯรายหนึ่งถูกสังหารในอิรัก ระหว่างการโจมตีโดยกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แอชตัน คาร์เตอร์ บอกกับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมคนอื่น ๆ ว่า แม้ว่าในช่วงนี้ได้รับชัยชนะหลายครั้ง “แต่การต่อสู้นี้ยังอีกยาวไกลกว่าจะถึงจุดสิ้นสุด”
“เรื่องนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนจากการโจมตีกองกำลังเพชเมอร์กาในตอนเหนือของอิรักเมื่อวานนี้ ซึ่งคร่าชีวิตสมาชิกกองทัพสหรัฐฯคนหนึ่งไปอย่างน่าเสียดาย” คาร์เตอร์ กล่าวในการเปิดการประชุมที่กองบัญชาการภาคพื้นยุโรปของกองทัพสหรัฐฯในเมืองชตุทท์การ์ทของเยอรมนี
การประชุมครั้งนี้ ซึ่งมีรัฐมนตรีจากฝรั่งเศส อังกฤษ และ เยอรมนี ด้วย ถูกวางแผนไว้ก่อนที่จะมีข่าวเมื่อวันอังคาร (3) ว่า นาวิกโยธินกองทัพเรือสหรัฐฯรายหนึ่ง ถูกสังหารในภาคเหนือของอิรัก เมื่อนักรบกลุ่มไอเอสทลายแนวป้องกันของกองกำลังเคิร์ด และบุกเมือง ๆ หนึ่ง
ทหารระดับหัวกะทิรายดังกล่าว เป็นทหารอเมริกันคนที่สามที่ถูกสังหารในการสู้รบโดยตรงนับตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯเปิดฉากปฏิบัติการในปี 2014 เพื่อ “ลดกำลังและทำลาย” กลุ่มไอเอส
เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน สหรัฐฯประกาศแผนส่งทหารไปอิรักเพิ่ม 200 คน และส่งพวกเขาเข้าใกล้แนวหน้าของการสู้รบมากขึ้น เพื่อให้คำแนะนำแก่กองกำลังอิรักในสงครามกวาดล้างกลุ่มไอเอส
ในช่วงปลายเดือนเดียวกัน ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประกาศว่า เขาจะส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษไปซีเรียเพิ่ม 250 คน และเพิ่มการปรากฏตัวทางภาคพื้นดินของสหรัฐฯอย่างมากมาย เพื่อดึงดูดให้นักรบชาวซีเรียเข้ามาร่วมต่อสู้กับกลุ่มไอเอสมากขึ้น
นักวิจารณ์หลายคนชี้ว่า การย่างก้าวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของโอบามายังคงไม่เพียงพอ
คาร์เตอร์ กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯจำเป็นต้องมองหาโอกาสทำอะไรเพิ่มเติม ในขณะเดียวกัน เขาก็แสดงความมั่นใจว่าปฏิบัติการนี้จะสำเร็จในที่สุด
กลุ่มไอเอสกำลังอยู่ในช่วงล่าถอยในวงกว้าง นับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่กองทัพอิรักยึดคืนเมืองรามาดี เมืองใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตก เมื่อเดือนที่แล้วกองทัพอิรักได้ยึดคืนเมืองฮิตที่อยู่ใกล้เคียง และผลักดันให้กลุ่มไอเอสถอยร่นขึ้นไปตามแนวหุบเขายูเฟรติส
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯยอมรับว่า ชัยชนะทางทหารดังกล่าวไม่เพียงพอ
อิรักถูกรุมเร้าด้วยการต่อสู้ทางการเมือง คอร์รัปชัน วิกฤตการเงิน และความพยายามเป็นครั้งคราวของรัฐบาลที่นำโดยชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ที่จะหาทางประนีประนอมกับชนกลุ่มน้อยชาวสุหนี รากฐานแรงสนับสนุนของกลุ่มไอเอส