เอเจนซีส์ - โอบามาออกมาตอกย้ำอีกว่า ทรัมป์ “ไม่เหมาะเป็นประธานาธิบดีอย่างแรง” ทางด้านเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ก็โต้กลับ ระบุ ผลงานสองสมัยที่ผ่านมา ฟ้องว่า ประมุขสหรัฐฯคนปัจจุบันเป็นผู้นำไร้น้ำยา ขณะเดียวกัน จากการที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันผู้นี้ วิพากษ์วิจารณ์ครอบครัวทหารมุสลิม - อเมริกัน ที่สละชีพในสนามรบ ทำให้เขาถูกต่อต้านหนักขึ้นทุกทีจากภายในพรรคของเขาเอง โดยที่ ริชาร์ด ฮันนา กลายเป็นสมาชิกรัฐสภาสังกัดรีพับลิกันคนแรกที่ประกาศจะลงคะแนนให้คลินตัน นอกจากนี้ ยังมีผู้บริจาคคนสำคัญอีกคนของพรรคที่แตกแถวออกมาให้การรับรองอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ที่เดินทางเยือนสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร (2 ส.ค.) ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงทำเนียบขาวจากรีพับลิกัน ว่า ไม่ได้เตรียมตัวและไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรงในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
ประมุขทำเนียบขาว สำทับว่า การที่ทรัมป์โจมตีครอบครัว “โกลด์สตาร์” ซึ่งหมายถึงครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นทหารผู้เสียสละชีวิต เพื่อปกป้องประเทศชาตินั้น ฟ้องว่า เขาไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับปัญหาสำคัญในยุโรป, ตะวันออกกลาง และ เอเชีย จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะบริหารประเทศ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ แคทรินา เพียร์สัน โฆษกของทรัมป์ ตอบโต้ว่า การเสียชีวิตของ ร้อยเอก ฮูมายัน ข่าน เป็นความผิดของโอบามา และ ฮิลลารี คลินตัน และว่า ทรัมป์ไม่เคยโหวตสนับสนุนสงครามอิรักแบบคลินตัน
ทั้งนี้ ร้อยเอกข่าน เสียชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในอิรัก เมื่อปี 2004 ซึ่งเป็นช่วงที่คลินตันเป็นวุฒิสมาชิก ส่วนโอบามายังไม่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีแต่อย่างใด
เรื่องราวของร้อยเอกข่านกลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงการเมืองอเมริกัน หลังจากที่ คิซร์ ข่าน พ่อของเขาได้รับเชิญกล่าวปราศรัยในงานประชุมใหญ่ระดับชาติพรรคเดโมแครต เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีการลงมติรับรองเสนอชื่อคลินตันลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ปรากฏว่า คิซร์โจมตีข้อเสนอห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้าอเมริกาของทรัมป์ ทำให้เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ผู้นี้ ตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน สร้างความไม่พอใจให้กับชาวอเมริกันจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคน
โอบามาตระหนักเรื่องนี้ดี และลงมือตอกย้ำรอยร้าวทันควัน ด้วยการเรียกร้องให้รีพับลิกันเลิกสนับสนุนทรัมป์โดยเด็ดขาด ไม่ใช่แค่ถอยห่างออกไปทีละคนสองคน
ทางด้านทรัมป์ตอบโต้โอมาบา ผ่านคำแถลงลายลักษณ์อักษรเมื่อวันอังคาร (2) ซึ่งระบุว่า ตลอดช่วง 2 สมัยที่โอบามาอยู่ในตำแหน่ง คือ ตัวอย่าง “ผู้นำที่ล้มเหลว” และยังสำทับผ่านสถานีข่าว ฟ็อกซ์ นิวส์ ว่า โอบามาอ่อนแอและไร้ประสิทธิภาพ
มหาเศรษฐีจากนิวยอร์กผู้นี้ ยังกล่าวหาว่า โอบามาและคลินตันทำลายเสถียรภาพในตะวันออกกลาง และทำให้อเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยงจากการที่คลินตันใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวในการรับส่งอีเมล ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง ตัวทรัมป์เองก็กำลังทำให้ความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ปรากฏชัดเจนมากขึ้น โดยเขาประกาศไม่สนับสนุน ส.ส. พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน สองสมาชิกคนดังของรีพับลิกันที่กำลังจะลงสนามเลือกตั้งขั้นต้นในสัปดาห์หน้าและปลายเดือนนี้ตามลำดับ
ที่ผ่านมา ทั้ง ไรอัน และ แมคเคน ต่างวิจารณ์เรื่องที่ทรัมป์โจมตีครอบครัวร้อยเอกข่าน นอกจากนั้น แมคเคนยังไม่ยอมเข้าร่วมการประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรครีพับลิกัน เพื่อเสนอชื่อทรัมป์เมื่อเดือนที่แล้ว เช่นเดียวกับสมาชิกวีไอพีของรีพับลิกันหลายคน อาทิ ครอบครัวบุช และ มิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้สมัครชิงทำเนียบขาวเมื่อปี 2012
ประเด็นร้อยเอกข่าน ยังเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ ริชาร์ด ฮันนา ส.ส. จากนิวยอร์ก กลายเป็นสมาชิกรัฐสภาคนแรกของรีพับลิกันที่ประกาศเมื่อวันอังคาร ว่า จะลงคะแนนให้คลินตันในการเลือกตั้งวันที่ 8 พฤศจิกายน
ที่ผ่านมา ถึงแม้สมาชิกรีพับลิกันหลายคนไม่เห็นด้วยกับการเสนอชื่อทรัมป์ แต่อย่างมากที่สุดก็แค่บอกว่า จะโหวตให้ผู้สมัครจากพรรคที่ 3 หรือผู้สมัครที่ไม่มีชื่ออยู่ในบัตรเลือกตั้งแต่ผู้ลงคะแนนใส่ชื่อลงไปเอง
วันเดียวกัน เม็ก วิตแมน ซีอีโอของฮิวเลตต์ แพกการ์ด เอนเตอร์ไพรซ์ ซึ่งเป็นผู้บริจาคและผู้ระดมทุนคนสำคัญของรีพับลิกัน ได้ออกมาประกาศรับรองคลินตัน โดยให้เหตุผลว่า การปลุกปั่นให้เกิดอคติต่อคนบางกลุ่ม รวมถึงการฉวยโอกาสจากความโกรธ ความเดือดร้อน ความกลัว และความขัดแย้งด้านเชื้อชาติของทรัมป์ ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
กระแสรังเกียจทรัมป์ยังลามไปถึงผู้นำหลายชาติ อาทิ ประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศสที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคาร ว่า ทรัมป์ ทำให้คน “คลื่นไส้” และเตือนว่า หากนักธุรกิจผู้นี้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง อาจกระตุ้นให้แนวคิดทางการเมืองฝ่ายขวาฟื้นคืนชีพทั่วโลก
