xs
xsm
sm
md
lg

รีพับลิกันเลือก “ทรัมป์” เป็นทางการ แข่ง “คลินตัน” ชิงประธานาธิบดี พ.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน กล่าวปราศรัยสดๆ จากนครนิวยอร์กเมื่อวันอังคาร (19 ก.ค.) ถ่ายทอดบนจอภาพยักษ์ในที่ประชุมใหญ่ระดับชาติของรีพับลิกัน ณ เมืองคลิฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ทั้งนี้ที่ประชุมใหญ่ลงคะแนนในวันดังกล่าว เลือกทรัมป์เป็นตัวแทนพรรคเข้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอเมริกันอย่างเป็นทางการ
เอเจนซีส์ - “รีพับลิกัน” เสนอชื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์” เป็นตัวแทนพรรคเพื่อลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันอังคาร (19 ก.ค.) ซึ่งถือเป็นนาทีสำคัญของการเมืองอเมริกัน และยังเป็นชัยชนะน่าทึ่งของผู้ที่เคยถูกเย้ยหยันไม่ใยดีหลังเปิดเผยความฝันในการเข้าสู่ทำเนียบขาว ขณะเดียวกัน ความคืบหน้านี้ยังบ่งชี้สัญญาณว่า บรรดาผู้นำรีพับลิกันไม่มีทางอื่นนอกจากหนุนหลังทรัมป์เพื่อเอาชนะฮิลลารี คลินตัน ในศึกชิงทำเนียบขาวปลายปีนี้

หลังการหาเสียงที่แหวกธรรมเนียมปฏิบัติแต่ส่งให้ทรัมป์เอาชนะคู่แข่ง 16 คน รวมทั้งการคัดค้านต่อต้านจากบรรดาผู้นำในพรรค ในที่สุดก็มาถึงวันที่เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้สามารถประกาศว่า ถึงเวลาแล้วที่จะเดินหน้าสุดแรงและพิชิตฮิลลารี คลินตัน ในการเลือกตั้งวันที่ 8 พฤศจิกายน พร้อมกันนี้ เขายังให้คำมั่นในการสร้างงาน เสริมสร้างกองทัพ ปกป้องชายแดนสหรัฐฯ และฟื้นกฎหมายและความเป็นระเบียบเรียบร้อย

ในการประชุมใหญ่ระดับชาติพรรครีพับลิกันซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 2 เมื่อวันอังคาร (19) ตัวแทนของสมาชิกพรรคจากทุกรัฐได้ลงคะแนนแบบขานชื่อว่าจะเลือกใครเป็นผู้สมัครของรีพับลิกันเข้าชิงเก้าอี้ประธานาธบดี และโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโตของทรัมป์ที่เป็นตัวแทนผู้หนึ่งของรัฐนิวยอร์ก ได้เป็นผู้ประกาศการสนับสนุนจากรัฐนี้ ซึ่งทำให้คะแนนของนักธุรกิจใหญ่จากนิวยอร์กผู้นี้มีเกินกึ่งหนึ่งของผู้ลงคะแนน คือ 1,237 คน

เมื่อการขานชื่อเสร็จสิ้น ทรัมป์ได้คะแนนจากผู้แทนรวมทั้งสิ้น 1,725 คน ตามด้วยวุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากรัฐเทกซัส เท็ด ครูซ 475 คน, จอห์น เคซิก ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ 120 คน และวุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากฟลอริดา มาร์โก รูบิโอ 114 คน และผู้สมัครอีกสามคนได้ตัวแทนรวมกัน 12 คน

นอกจากนั้น ที่ประชุมยังลงคะแนนรับรองการเสนอชื่อไมค์ เพนซ์ ผู้ว่าการรัฐอินดีแอนา ลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับทรัมป์

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อ 13 เดือนที่แล้วตอนที่ทรัมป์ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีผู้เชี่ยวชาญเพียงหยิบมือที่เชื่อว่า เขามีโอกาสแถมยังเป็นโอกาสเพียงริบหรี่เท่านั้น

แคมเปญหาเสียงของทรัมป์ละเมิดบรรทัดฐานการเมือง มิหนำซ้ำยังชูนโยบายการสร้างความขุ่นเคืองด้านเชื้อชาติ ทำให้กลุ่มผู้มีสิทธิออกเสียงกลุ่มสำคัญๆ ไม่พอใจ หลีกเลี่ยงการโฆษณาที่ใช้งบก้อนใหญ่ แต่หันไปใช้การทำตัวเป็นข่าวเพื่อออกสื่ออย่างสม่ำเสมอแทน

“เหลือเชื่อ เกินจริง ฉันภูมิใจในตัวพ่อมาก” อิวานกา ทรัมป์ ลูกสาวคนโตและนักธุรกิจที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งว่าเป็นอาวุธลับของทรัมป์ แสดงความยินดีหลังพ่อได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าทุกคนในงานประชุมใหญ่รีพับลิกันยินดีกับชัยชนะของทรัมป์ ตัวแทนผู้ลงคะแนนหลายคนปรบมือให้เป็นมารยาท บางคนโกรธและเดินออกจากที่ประชุม ตัวแทนจากหลายรัฐไม่ยอมเข้าร่วมประชุมและไม่ลงคะแนนให้ทรัมป์ เช่นเดียวกับผู้นำพรรคจำนวนมากที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมประชุม เนื่องจากไม่ต้องการข้องแวะกับทรัมป์ที่เป็นต้นตอความแตกแยก อีกทั้งไม่แน่ใจว่า การเสนอชื่อทรัมป์จะส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองของตนอย่างไร

กระนั้น หลังจากความพยายามสุดท้ายในการขัดขวางทรัมป์ล้มเหลวลงโดยสิ้นเชิง เริ่มมีสัญญาณว่า กลุ่มผู้ทรงอำนาจในรีพับลิกันหันมาสนับสนุนทรัมป์ เนื่องจากมีเป้าหมายใหญ่เดียวกันคือ การเอาชนะคลินตันที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการประชุมใหญ่สัปดาห์หน้า

พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประกาศว่า เวลาของบารัค โอบามาใกล้จบลงแล้ว ส่วนวันเวลาของคลินตันก็ยังมองไม่เห็น แต่ปี 2016 คือปีที่อเมริกาจะก้าวต่อไป

ด้านคริส คริสตี้ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี นำตัวแทนผู้ลงคะแนนตะโกนว่า คลินตัน “ผิด” และสาธยายข้อกล่าวหากระทำผิดต่างๆ ของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศผู้นี้

ฝ่ายคลินตันเองก็ไม่รอช้าในการโจมตีชัยชนะของทรัมป์ด้วยการทวิตว่า "โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งได้รับการเสนอชื่อจากรีพับลิกัน มาร่วมบริจาคกันคนละเล็กละน้อยเพื่อทำให้แน่ใจว่า เขาจะไม่มีโอกาสย้างเท้าเข้าสู่ห้องทำงานรูปไข่โดยเด็ดขาด”

ผลสำรวจล่าสุดจากรอยเตอร์/อิปซอสที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร(19) ระบุว่า ทรัมป์ตีตื้นขึ้นมา โดยไล่ตามคลินตันห่างเพียง 7% จาก 15% เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะเดียวกัน แม้ทรัมป์ได้ใจคนอเมริกันจำนวนมากที่ชิงชังกลุ่มทรงอำนาจทางการเมืองและขุ่นเคืองที่ถูกลอยแพจากกระแสโลกาภิวัตน์ แต่ชาวอเมริกันอีกจำนวนมากเช่นเดียวกัน รวมทั้งผู้นำประเทศต่างๆ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอหลายอย่างของทรัมป์ โดยเฉพาะการเรียกร้องห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้าอเมริกาชั่วคราว และการสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดนติดกับเม็กซิโกเพื่อสกัดการลักลอบข้ามแดน

วันอังคาร แฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ตอกย้ำความกังวลของพันธมิตรสหรัฐฯ ว่า ทรัมป์กำลังบ่อนทำลายความมั่นคงของอเมริกาและโลก ด้วยแนวทางการเมืองที่โหมกระพือความกลัวและการโดดเดี่ยวตัวเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น