เอเจนซีส์ – "โดนัลด์ ทรัมป์" ทุ่มเต็มที่เพื่อพิสูจน์ว่าควบคุมงานประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันที่แตกร้าวอยู่หมัดตั้งแต่วันแรก ขนแขกรับเชิญตอกย้ำความเหมาะสมของตนในการขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐฯ โดยเล่นกับความกลัวของอเมริกันชนและจุดกระแสชาตินิยม พร้อมกระหน่ำ "ฮิลลารี คลินตัน" กรณีการโจมตีสถานทูตอเมริกันในเบงกาซีเมื่อสี่ปีก่อน
จากแคนดิเดตที่ไม่น่าเป็นไปได้ กลายมาเป็นผู้ที่กำลังจะได้รับการเสนอชื่อลงเลือกตั้งชิงทำเนียบขาว " โดนัลด์ ทรัมป์" ปรากฏตัวบนเวทีงานประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (18) ด้วยการประกาศสั้นๆ ว่า "เราจะชนะอย่างท่วมท้น” ก่อนแนะนำเมลาเนีย ผู้เป็นภรรยาแบบสั้นๆ ว่าเธอคือ “ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนต่อไปของสหรัฐฯ” พร้อมฟังเธอบรรยายค่านิยมหลักที่จะนำไปประพฤติปฏิบัติเมื่อได้เข้าสู่ทำเนียบขาว ซึ่งในภายหลังมีเสียงนินทาว่า หลายข้อลอกมาจากสุนทรพจน์ของ "มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนปัจจุบัน
เมลาเนียยืนยันว่า สามีของเธอจะปกป้องประชาชนและประเทศ ไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ก่อนทิ้งท้ายว่า เขาจะเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งหมด ไม่ใช่เป็นแค่ตัวแทนคนบางกลุ่ม อาทิ ชาวมุสลิมและฮิสปานิก (คนในประเทศแถบอเมริกาใต้ที่เคยเป็นอาณานิคมสเปน)
อย่างไรก็ตาม เหล่าแขกรับเชิญที่ขึ้นเวทีก่อนหน้านี้ ได้ช่วยปลุกบรรยากาศให้คุกรุ่นและจุดกระแสชาตินิยม ซึ่งเป็นธีมหลักในแคมเปญของทรัมป์ตลอดการประชุมนี้
เริ่มจาก รูดี้ กุยเลียนี อดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์กที่ประกาศว่า คนอเมริกันส่วนใหญ่รู้สึกไม่ปลอดภัย พร้อมอ้างอิงว่าช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาเกิดเหตุก่อการร้ายใหญ่โดยกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงถึง 5 ครั้งในอเมริกาและประเทศพันธมิตร
กุยเลียนีปิดท้ายว่า อเมริกาจะต่อสู้และเอาชนะผู้ก่อการร้ายโดยไม่มีเงื่อนไข
ตามมาด้วย มาร์คัส ลัตเทรล อดีตสมาชิกหน่วยซีลที่ตอกย้ำว่า โลกภายนอกอเมริกาช่างน่ากลัว
ขณะที่ ไมค์ แมกคอล ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรตอกย้ำว่าอเมริกา “กำลังจะถูกกำจัด” ถนนหลายสายในเมืองใหญ่ๆ กลายเป็นสนามรบ ดังนั้น จึงถึงเวลาแล้วที่จะมองข้ามความถูกต้องทางการเมือง หันมาเผชิญหน้ากับศัตรู ซึ่งก็คือกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง
ไม่ใช่ภัยจากการก่อการร้ายและมุสลิมหัวรุนแรงเท่านั้นที่ถูกพาดพิงถึง ผู้พูดหลายคนยังกล่าวถึงการเสียชีวิตจากน้ำมือผู้ลักลอบเข้าอเมริกา
แมรี เมนโดซา แม่ของตำรวจที่เสียชีวิตจากการขับรถเกินความเร็วที่จำกัดของผู้ลักลอบเข้าเมืองคนหนึ่ง บอกว่า อเมริกาควรมีฝ่ายบริหารที่ใส่ใจคนอเมริกันมากกว่าพวกอพยพเข้าประเทศผิดกฎหมาย
เจเมียล ชอว์ ได้รับเสียงโห่ร้องให้กำลังใจหลังบอกเล่าว่า ลูกชายถูกโจรเม็กซิกันที่ลักลอบเข้าเมืองฆ่าตาย
บรรดาตัวแทนผู้ลงคะแนนในที่ประชุมยังถูกปลุกเร้าให้หวาดกลัว "ฮิลลารี คลินตัน" ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ โดยผู้พูดหลายคนเรียกร้องให้มีการจองจำอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศหญิงรายนี้
แพต สมิธ แม่ของคนอเมริกัน 1 ใน 4 รายที่เสียชีวิตในเหตุโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเบงกาซี ประเทศลิเบีย เมื่อปี 2012 และปัจจุบันเป็นที่รู้จักในฐานะนักพูดของพวกเอียงขวา ได้กล่าวโทษว่าฮิลลารีเป็นต้นเหตุทำให้ลูกชายของเธอเสียชีวิต ทั้งยังปิดบังความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นต่อคนอเมริกัน
ด้านทีมหาเสียงของคลินตันออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับกรณีเบงกาซีว่า รีพับลิกันพยายามสร้างความเสียหายทางการเมืองต่อคลินตันมาโดยตลอดด้วยการกล่าวเท็จว่า ฮิลลารี คลินตัน ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ บอกให้ ลีออน พาเน็ตตา รัฐมนตรีกลาโหม กับเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ ยับยั้งการใช้กำลังตอบโต้ชั่วคราวระหว่างที่สถานกงสุลอเมริกันในเบงกาซีถูกโจมตี โดยบอกว่า ข้อกล่าวหานี้ได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางแล้วว่าไม่มีมูล
คลินตันยังตอกกลับด้วยว่า ทรัมป์ไม่สามารถควบคุมการประชุมได้นับตั้งแต่เริ่มงาน จากการที่รีพับลิกันพยายามขัดขวางตัวแทนผู้ลงคะแนนกลุ่มเล็กๆ ภายในพรรคที่ต่อต้านทรัมป์ ซึ่งต้องการให้ลงคะแนนรับรองกฎที่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการสกัดนักธุรกิจใหญ่จากนิวยอร์กผู้นี้ ไม่ให้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรค ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันอังคาร (19)
อย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าการประชุมรีพับลิกันมีเอกภาพมากกว่าช่วงระหว่างการหยั่งเสียงขั้นต้น โดยมีผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ เพียงสองกลุ่มที่พยายามขัดขวางการประชุม
สำหรับบรรยากาศภายนอกศูนย์ประชุมนั้น มีการประท้วงอย่างสงบทั่วเมืองคลีฟแลนด์ เจ้าหน้าที่รายงานว่า จับกุมผู้ก่อความวุ่นวายเพียงคนเดียวเมื่อบ่ายวันจันทร์