เอเจนซีส์ – รีพับลิกันหงายเงิบ ความพยายามในการสร้างบรรยากาศความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวพังไม่เป็นท่า หลังเท็ด ครูซ ปฏิเสธรับรองโดนัลด์ ทรัมป์ บนเวทีประชุมใหญ่พรรค มิหนำซ้ำเรียกร้องให้ประชาชน "โหวตอย่างมีสติ” เลือกคนที่ยึดมั่นในหลักการ ผู้ที่ละทิ้งความโกรธและมีแต่ความรัก
การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันในวันพุธ (20) ซึ่งเป็นวันที่ 3 และควรอบอวลด้วยบรรยากาศความสามัคคีตามที่เขียนบทกันไว้ แต่กลับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้เกิดคำถามว่า รีพับลิกันจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและโอบอุ้มทรัมป์เพื่อเอาชนะฮิลลารี คลินตัน ว่าที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครตในการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ได้หรือไม่
เหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อถึงคิวขึ้นเวทีของครูซ วุฒิสมาชิกจากเทกซัสที่ได้คะแนนอันดับ 2 รองจากทรัมป์แบบทิ้งห่างในการหยั่งเสียงเพื่อเลือกตัวแทนพรรค และครูซกลับไม่ประกาศรับรองทรัมป์
ครูซเริ่มต้นการปราศรัยด้วยการแสดงความยินดีกับทรัมป์ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคาร (19) และเรียกร้องให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ในวันที่ 8 พฤศจิกายนโดยการใช้สติเลือกผู้สมัครที่สามารถปกป้องเสรีภาพของประชาชนและศรัทธาต่อรัฐธรรมนูญ
"เราสมควรมีผู้นำที่ยึดมั่นในหลักการ ผูกพันเราไว้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้ค่านิยมที่มีร่วมกัน ผู้ที่ละทิ้งความโกรธและมีแต่ความรัก”
อิริก เฟร์นสตรอม นักกลยุทธ์ของรีพับลิกันที่ไม่ฝักใฝ่ผู้สมัครคนใด วิจารณ์ว่า การขอให้ประชาชนใช้สติในการโหวตเข้าข่ายการรณรงค์ของขบวนการต่อต้านทรัมป์ และการที่ครูซประกาศแบบนี้ในที่ประชุมใหญ่รีพับลิกันก็ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์
บรรยากาศในศูนย์ประชุมกึกก้องไปด้วยเสียงโห่ครูซและเสียงตะโกน “เราต้องการทรัมป์”
เคน คุกซิเนลลี ตัวแทนผู้ลงคะแนนของพรรครีพับลิกันที่ “ไม่เอา” ทรัมป์ และเป็นอดีตอัยการใหญ่รัฐเวอร์จิเนีย บอกว่า ผู้คนในศูนย์ประชุมแสดงท่าทีหยาบคายน่ารังเกียจต่อครูซและทีมงาน ซึ่งรวมถึงไฮดี้ ภรรยาของเขาด้วย
.
.
ด้านทรัมป์ นักธุรกิจและอดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์วัย 70 ปี ที่ไม่เคยได้รับเลือกดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาก่อน เดินเข้าสู่ศูนย์ประชุมพร้อมปรบมือให้ครูซที่ปราศรัยใกล้จบ และดึงดูดความสนใจของฝูงชนออกจากเวทีโดยสิ้นเชิง
ทรัมป์ทวีตในระหว่างที่การประชุมภาคค่ำถูกเลื่อนออกไปว่า ครูซผิดสัญญาที่บอกว่า จะให้การรับรองตนเพื่อลงเลือกตั้งประธานาธิบดี
“ว้าว! เท็ด ครูซ ถูกโห่ไล่จากเวที เขาไม่คู่ควรต่อคะแนนที่ได้รับ ผมเห็นคำปราศรัยนั่นก่อนที่เขาจะขึ้นเวทีสองชั่วโมง แต่ก็ปล่อยให้เขาพูด ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย!"
ทั้งนี้ ระหว่างการหยั่งเสียงหาตัวแทนพรรค ทรัมป์วิจารณ์รูปลักษณ์ของภรรยาครูซ ซ้ำพูดเป็นนัยว่า พ่อของครูซเคยอยู่กับผู้สังหารจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ก่อนที่อดีตประธานาธิบดีผู้นี้จะถูกยิงเสียชีวิตในปี 1963 ไม่นาน
ด้านครูซ วัย 45 ปี ที่เป็นสมาชิกที ปาร์ตี้ หรือกลุ่มอนุรักษ์นิยมในวุฒิสภาที่สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มอำนาจเก่าของรีพับลิกัน และยังเป็นแกนนำในการใช้กลยุทธ์อันนำไปสู่การยุติการปฏิบัติงานชั่วคราวของหน่วยงานรัฐบาลจากปัญหางบประมาณนั้น เรียกทรัมป์ว่า “พวกหัวงูต่อเนื่อง” และ “หลงตัวเอง”
นอกจากนั้นยังเป็นที่คาดกันว่า ครูซจะลงสมัครชิงทำเนียบขาวอีกครั้งในปี 2020 หากหนนี้ทรัมป์พ่ายแพ้ต่อคลินตัน
ที่ปรึกษาครูซที่ไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตนบอกว่า วุฒิสมาชิกเทกซัสคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่า จะถูกฝูงชนต่อต้านถ้าไม่ประกาศรับรองทรัมป์
ขณะเดียวกัน ตัวแทนผู้ลงคะแนนจำนวนมากไม่พอใจปฏิกิริยาของผู้คนในศูนย์ประชุมที่มีต่อคำปราศรัยของครูซ โดยบอกว่า อาจทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนครูซตัดสินใจไม่ลงคะแนนให้ทรัมป์ในการเลือกตั้งใหญ่
มาเน็ตต์ เมอร์ริล ตัวแทนผู้ลงคะแนนจากรัฐวอชิงตันที่โหวตให้ครูซ เป็นคนหนึ่งที่บอกว่า จะไม่ลงคะแนนให้ทรัมป์ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับภาพความสามัคคีที่ทีมทรัมป์พยายามปั้นแต่ง
อย่างไรก็ดี ดรามาครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อไมค์ เพนซ์ ผู้ว่าการรัฐอินเดียนา ที่ขึ้นเวทีและประกาศยอมรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับทรัมป์ โดยได้รับเสียงปรบมือแสดงความยินดีกึกก้องก่อนปิดการประชุม
ทั้งนี้ การประชุมใหญ่ของรีพับลิกันที่มีกำหนดปิดฉากในวันพฤหัสฯ (21) ด้วยการขึ้นเวทีเพื่อรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคของทรัมป์นั้น ปรากฏสัญญาณความวุ่นวายนับจากวันแรกคือวันจันทร์ (18) เมื่อกลุ่มผู้ต่อต้านทรัมป์ภายในพรรคกรูกันออกจากศูนย์ประชุม และคนอื่นๆ ตะโกนแสดงความไม่พอใจที่ไม่สามารถกดดันให้พรรคโหวตเพื่อขัดขวางการเสนอชื่อทรัมป์สำเร็จ
ต่อมาในวันที่สองเกิดกรณีการวิจารณ์กว้างขวางว่า เมลาเนีย ภรรยาทรัมป์ ลอกสุนทรพจน์ของมิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเมื่อปี 2008 ขณะกล่าวชื่นชมสามีบนเวที กระทั่ง เมเรดิธ แมกไอเวอร์ เจ้าหน้าที่ผู้เขียนคำปราศรัยดังกล่าวต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบว่า มีการหยิบยืมเนื้อหาบางส่วนในคำปราศรัยของโอบามามาจริง และยื่นใบลาออกไปเมื่อวันพุธ
ซ้ำร้ายสมาชิกคนดังของพรรครีพับลิกันหลายคน อาทิ มิตต์ รอมนีย์ และวุฒิสมาชิกจอห์น แมกเคน ที่เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งคู่ รวมถึงครอบครัวบุช เจ้าของตำแหน่งประธานาธิบดีสองคนล่าสุดจากพรรครีพับลิกัน ยังไม่ไปปรากฏตัวที่คลีฟแลนด์เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อวาทกรรมของทรัมป์เรื่องผู้อพยพและการค้าเสรี
บรรดาผู้ต่อต้านยังตราหน้าทรัมป์ว่า เป็นคนหัวดื้อจากการเรียกร้องแบนชาวมุสลิมไม่ให้เดินทางเข้าอเมริกาชั่วคราว รวมทั้งการสร้างกำแพงตามแนวชายแดนติดกับเม็กซิโกเพื่อป้องกันผู้ลักลอบเข้าเมือง.
.
.