เอเอฟพี - กลุ่มสังเกตการณ์ความขัดแย้งในซีเรียระบุในวันนี้ (29 ก.ค.) ว่ามีผู้อยู่อาศัยในเมืองอะเลปโปเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถออกมาจากเขตยึดครองของฝ่ายกบฏผ่านเส้นทางเพื่อมนุษยชนก่อนที่ฝ่ายกบฏจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาหลบหนี
รัสเซีย พันธมิตรหลักของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ประกาศเมื่อวานนี้ (28) ถึงการเปิดเส้นทางช่วยเหลือสำหรับพลเรือนและนักรบที่ยอมจำนนซึ่งต้องการออกจากชุมชนฝั่งตะวันออกของฝ่ายกบฏ
เครื่องบินของรัฐบาลทิ้งระเบิดใส่พื้นที่ตะวันออกของอะเลปโปเมื่อคืนนี้ กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) กล่าว โดยไม่ได้ระบุจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตาย
ในวันนี้ (29) ทางเข้าสู่เส้นทางช่วยเหลือเหล่านี้ถูกปิดอย่างสิ้นเชิงในพื้นที่กบฏภายในเมืองนี้ กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุ
อย่างไรก็ตาม จุดสิ้นสุดของเส้นทางเหล่านี้ในพื้นที่ยึดครองรัฐบาลยังคงเปิดอยู่ ทั้งนี้อ้างจากกลุ่มสังเกตการณ์ฯ ซึ่งอาศัยเครือข่ายของแหล่งข่าวภายในซีเรียเพื่อหาข้อมูล
นับตั้งแต่เส้นทางเหล่านี้ถูกเปิดขึ้น “มีคนราว 12 คนที่สามารถใช้เส้นทางบุสตาน อัล-กัสร์ก่อนที่กลุ่มกบฏจะเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยและห้ามไม่ให้ครอบครัวเข้าใกล้เส้นทางเหล่านี้” รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้อำนวยการกลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุ
เมื่อวานนี้ (28) คณะกรรมการเจรจาระดับสูงของฝ่ายต่อต้านซีเรียวิพากษ์วิจารณ์เส้นทางดังกล่าวโดยระบุว่า รัสเซียและรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะ “ปรับเปลี่ยนสถิติประชากรของอเลปโปและรับรองความปลอดภัยให้กับการย้ายที่อยู่เชิงบังคับ”
กองกำลังฝักใฝ่รัฐบาลโอบล้อมเขตตะวันออกของอะเลปโปมาตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม สร้างความหวั่นกลัวให้แก่ประชาชนราว 250,000 ที่อาศัยอยู่ที่นั่น
ชุมชนที่ฝ่ายกบฏยึดครองถูกโอบล้อมโดยสมบูรณ์นำมาซึ่งภาวะขาดแคลนอาหารและราคาสินค้าพุ่งสูง นับตั้งแต่แต่ที่กองกำลังฝักใฝ่รัฐบาลตัดขาดเส้นทางเสบียงหลักเข้าสู่เมืองนี้ของฝ่ายกบฏ
นักวิเคราะห์ระบุว่า การสูญเสียเมืองอะเลปโปจะเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่สำหรับฝ่ายกบฏและอาจเป็นเครื่องแสดงจุดพลิกผันในความขัดแย้งนี้ซึ่งเริ่มต้นในปี 2011 ด้วยการปราบปรามการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเหี้ยมโหด
สงครามนาน 5 ปีของซีเรียนี้คร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 280,000 คน และทำให้มีผู้พลัดถิ่นหลายล้านคน