เอเอฟพี - รัสเซียประกาศในวันนี้ (28 ก.ค.) พวกเขาได้เริ่ม “ปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมขนานใหญ่” ร่วมกันกับรัฐบาลซีเรียรอบเมืองอะเลปโปเพื่อเปิดทางผ่านเพื่อมนุษยธรรมให้แก่พลเรือนและนักรบที่หลบหนี
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เซอร์เกย์ ชอยกู บอกกับสำนักข่าวแดนหมีขาวว่า ทางผ่านเพื่อมนุษยธรรมนี้กำลังถูกเปิด “เพื่อช่วยเหลือพลเรือนที่ถูกผู้ก่อการร้ายจับเป็นตัวประกันและสำหรับนักรบที่ตั้งใจจะวางอาวุธของพวกเขา” และอีกเส้นทางหนึ่งสู่ตอนเหนือของเมืองนี้เพื่อให้กลุ่มกบฏหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธของพวกเขา
พื้นที่ของฝ่ายต่อต้านในอะเลปโปถูกโอบล้อมโดยกองกำลังรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซียมาตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม เมื่อกองกำลังรัฐบาลรุกคืบเข้าสู่ภายในระยะการยิงของเส้นทางเสบียงเส้นเดียวที่ยังเหลืออยู่สู่ภาคตะวันออก
“เราเรียกร้องหลายครั้งให้ฝ่ายกบฏหันหน้าสู่สันติภาพแต่ฝ่ายกบฏก็ละเมิดการสงบศึกในทุกๆ ครั้งด้วยการยิงใส่พื้นที่พลเรือนและโจมตีทหารรัฐบาล ด้วยเหตุนี้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ยากลำบากจึงก่อตัวขึ้นในและนอกเมืองอเลปโป” ชอยกูกล่าว
ดังนั้น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน จึงสั่งให้กองกำลังรัสเซียที่สนับสนุนทหารที่ภักดีต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งรัสเซียเริ่มต้น “ปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมขนานใหญ่” ร่วมกับรัฐบาลซีเรีย
จุดให้บริการทางการแพทย์และจุดแจกอาหารจะตั้งอยู่ตามเส้นทางทั้ง 3 นี้ซึ่งมีไว้สำหรับพลเรือนและนักรบที่วางอาวุธแล้ว ชอยกูกล่าว
ชอยกูร้องขอให้รัฐบาลซีเรียเสนอนิรโทษกรรมให้กับนักรบที่หลบหนีและสื่อท้องถิ่นรายงานว่าอัสซาดตกลงเรื่องนี้ในทันที
เมืองอะเลปโปซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของซีเรียถูกแบ่งแยกเป็นสองส่วนระหว่างฝั่งตะวันออกของฝ่ายกบฏและฝั่งตะวันตกของฝ่ายรัฐบาลมาตั้งแต่กลางปี 2012
มีคนมากกว่า 280,000 คนถูกสังหารในซีเรียนับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นในเดือนมีนาคมปี 2011 ด้วยการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ถูกรัฐบาลปราบปรามอย่างโหดเหี้ยม