เอเอฟพี - นักรบอย่างน้อย 70 คนถูกสังหารในช่วงเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ของการปะทะรุนแรงระหว่างกองกำลังฝักใฝ่รัฐบาล นักรบญิฮาด และฝ่ายกบฏในจังหวัดอเลปโปของซีเรีย กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุในวันพุธ (15)
นักรบโปรรัฐบาลซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศของรัฐบาลและรัสเซียได้ชิงคืนหมู่บ้านเซย์ตัน และคาลาซา จนถึงพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอเลปโปหลังจากสูญเสียการควบคุมพื้นที่เหล่านี้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุ
แต่ กลุ่มอัล-นุสราฟรอนท์ เครือข่ายของกลุ่มอัลกออิดะห์ ได้เริ่มการโจมตีโต้กลับเพื่อยึดคืนหมู่บ้านคาลาซาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (15) รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้อำนวยการกลุ่มระบุ
“คาลาซาเป็นเนินเขาสูงที่มองลงไปเห็นพื้นที่ส่วนใหญ่บริเวณตอนใต้ของจังหวัดอเลปโป” เขากล่าว
พื้นที่ดังกล่าวสามารถมองไปเห็นเส้นทางเสบียงของฝ่ายรัฐบาลรอบพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองอเลปโป ซึ่งเชื่อมโยงสนามบินเนย์รับของรัฐบาลกับพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองนี้ และเชื่อมพื้นที่ที่ถูกควบคุมโดยทหารรัฐบาลกับพื้นที่ตะวันตกของเมืองนี้ เขากล่าว
พื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏและนักรบญิฮาดในตอนใต้ของจังหวัดอเลปโปเผชิญกับการโจมตี และการยิงปืนใหญ่อย่างหนักหน่วงตลอดทั้งคืน กลุ่มสังเกตการณ์กลุ่มนี้ซึ่งมีฐานในอังกฤษและอาศัยเครือข่ายของแหล่งข่าวภายในซีเรียเพื่อรวบรวมข้อมูล ระบุ
ฝ่ายรัฐบาลก็ตีกระหน่ำเส้นทางเสบียงสำคัญและพื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองอเลปโปตลอดทั้งคืนเช่นกัน กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุ
หนังสือพิมพ์อัล-วาตัน ซึ่งใกล้ชิดกับฝ่ายรัฐบาลรายงานว่า มีการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในจังหวัดนี้ในวันพุธ (15)
“เครื่องบินขับไล่ของรัสเซียเริ่มปฏิบัติภารกิจในอเลปโปใหม่อีกครั้ง โดยพุ่งเป้าที่ตำแหน่งของของกลุ่มอัล-นุสราฟรอนท์และกลุ่มติดอาวุธแนวร่วม” อัล-วาตัน รายงาน
มอสโคเริ่มการโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนรัฐบาลดามัสกัสในเดือนกันยายนปีที่แล้ว
เมืองอเลปโปครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าของซีเรีย แต่กลับกลายเป็นสนามรบนับตั้งแต่ปี 2012 เมื่อกลุ่มกบฏยึดพื้นที่ตะวันออกของเมืองบีบกองทัพให้ไปอยู่ทางฝั่งตะวันตก
ในภาคตะวันตกของอเลปโป การยิงปืนใหญ่ของฝ่ายกบฏได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 3 คนในวันพุธ (15) สำนักข่าวซานาของทางการรายงาน
สงครามในซีเรียคร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 280,000 คน และทำให้มีผู้พลัดถิ่นฐานหลายล้านคนนับตั้งแต่มันเริ่มต้นด้วยการปราบปรามการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเหี้ยมโหดในปี 2011