เอเอฟพี - เครื่องบินขับไล่รัสเซียถล่มเมืองยึดครองของกลุ่มอัลกออิดะห์ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อช่วงเช้ามืดวันอังคาร (31) ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 23 รายในการโจมตีที่หนักหน่วงที่สุดในรอบหลายเดือน กลุ่มสังเกตการณ์ระบุ
นอกจากนี้ยังมีพลเรือนได้รับบาดเจ็บจำนวนมากในการโจมตีเมืองอิดลิบ เมืองเอกของจังหวัดที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มอัล-นุสราฟรอนท์ เครือข่ายของกลุ่มอัลกออิดะห์มาตั้งแต่ปีที่แล้ว กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุ
กลุ่มอัล-นุสราฟรอนท์ไม่ได้รวมอยู่ในข้อตกลงหยุดยิงที่มีสหรัฐฯ และรัสเซียเป็นคนกลาง และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ระหว่างกองกำลังรัฐบาลที่รัสเซียหนุนหลังกับกลุ่มกบฏที่ไม่ใช่พวกนักรบญิฮัดซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตัน
“การโจมตีทางอากาศดังกล่าวเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดในเมืองอิดลิบนับตั้งแต่เริ่มต้นการหยุดยิง” รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้อำนวยการกลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุ
“แม้ว่าเมืองอิดลิบจะไม่ได้รวมอยู่ในข้อตกลงหยุดยิง แต่มันค่อนข้างสงบโดยมีการโจมตีเพียงแค่เป็นพักๆ” เขากล่าวเสริม
การโจมตีดังกล่าวเฉียดใกล้โรงพยาบาลและสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
มอสโกดำเนินปฏิบัติการทางอากาศเพื่อสนับสนุนพันธมิตรเก่าแก่อย่างดามัสกัสมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปีที่แล้ว
ปฏิบัติการดังกล่าวถูกวิจารณ์ว่าพุ่งเป้ากลุ่มกบฏที่ไม่ใช่นักรบญิฮัดด้วย แทนที่จะพุ่งเป้าเพียงกลุ่มอัลกออิดะห์และกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
รัสเซียเรียกร้องให้กลุ่มกบฏกลุ่มอื่นๆ ถอนกำลังจากพื้นที่ที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มอัล-นุสรา และแยกตัวออกจากพวกนักรบญิฮัด
นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองของซีเรียปะทุขึ้นในปี 2011 จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 280,000 ราย