เอเอฟพี - การทิ้งระเบิดโจมตีของฝ่ายรัฐบาลในและนอกเมืองอเลปโปทางตอนเหนือของซีเรียคร่าชีวิตพลเรือน 31 รายในวันนี้ (3) รวมถึง 10 คนที่ถูกโจมตีขณะโดยสารอยู่ในรถบัส หน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนเผย
“นอกเหนือจากพลเรือน 10 รายที่เสียชีวิตเพราะรถบัสถูกโจมตีแล้ว ยังมีอีก 21 รายที่เสียชีวิตในการโจมตีชุมชนหลายแห่งทางตะวันออกของเมืองนี้นับตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่” หน่วยงานที่รู้จักกันในชื่อไวท์เฮลเม็ทส์ระบุ
ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีในอเลปโปกล่าวว่า การโจมตีในวันนี้ (3) นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบสัปดาห์ โดยมีการทิ้งระเบิดถังซึ่งกำหนดเป้าหมายไม่ได้ใส่หลายเขตทางตะวันออกของเมืองนี้
กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ซึ่งมีฐานในอังกฤษรายงานว่า การโจมตีอย่างหนักหน่วงใส่ถนนคาสเตลโล เส้นทางเสบียงหลักของฝ่ายกบฏนอกอเลปโป ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 8 ราย
รถบัสคันหนึ่งที่อยู่บนถนนดังกล่าวก็ถูกโจมตีเมื่อวันพุธ (1) ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 7 ราย
ผู้อำนวยการของกลุ่มสังเกตการณ์ รามี อับเดล เราะห์มาน กล่าวว่า ถนนคาสเตลโล ซึ่งเป็นเส้นออกจากอเลปโปของพลเรือนที่อยู่ในพื้นที่ยึดครองของกบฏ ตอนนี้ถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง
“ทุกการเคลื่อนไหวถูกเพ่งเล็ง ไม่ว่าจะเป็นรถบัสหรือคนที่สัญจรไปมา” เขากล่าว
อับเดล เราะห์มาน กล่าวว่า จรวดที่ถูกยิงใส่พื้นที่ยึดครองของรัฐบาลในเมืองนี้เมื่อคืนก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคนเช่นกัน แต่เขาไม่สามารถยืนยันตัวเลขที่แน่นอนได้
ข้อตกลงหยุดยิงที่เห็นชอบโดยรัสเซียและสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ถูกละเมิดเกือบจะตลอดเวลาทั่วอเลปโป เมืองซึ่งรัฐบาลและกลุ่มกบฏต่อสู้แย่งชิงกันมาตั้งแต่ปี 2012
พลเรือนกว่า 300 คนถูกสังหารในอเลปโปนับตั้งแต่เดือนเมษายนจากการที่กลุ่มกบฏกระหน่ำโจมตีชุมชนในการควบคุมของรัฐบาลด้วยจรวดและปืนใหญ่ และฝ่ายรัฐบาลโจมตีพื้นที่ฝ่ายกบฏด้วยการโจมตีทางอากาศ
มีคนอย่างน้อย 280,000 คนถูกสังหารและหลายล้านคนพลัดถิ่นที่อยู่นับตั้งแต่สงครามในซีเรียเริ่มต้นเมื่อปี 2011 ด้วยการปราบปรามการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างโหดเหี้ยม