รอยเตอร์ – แดเนียล บาร์เรรา บาร์เรรา(Daniel Barrera Barrera) หรือ เอล โลโค เจ้าพ่อยาเสพติดโคเคนชื่อก้องโลกชาวโคลอมเบียวัย 48 ปีถูกศาลสหรัฐฯสั่งจำคุกเป็นเวลา 35 ปีในวัยจันทร์(25 ก.ค)รวมไปถึงสั่งปรับและยึดทรัพย์รวม 20 ล้านดอลลาร์ ในข้อหาเป็นยักษ์ใหญ่ผลิตและจัดจำหน่ายโคเคนไปทั่วโลกรวมไปถึงธุรกิจฟอกเงิน และมีประวัติเคยใช้กรดเข้มข้นทำลายนิ้วมือตัวเองทั้ง 10 ก่อนเข้ารับศัลยกรรมตกแต่งเพื่อหลบเลี่ยงการดำเนินคดีในโคลอมเบีย
รอยเตอร์รายงานวันนี้(26 ก.ค)ว่า เจ้าพ่อยาเสพติดโคเคนที่รู้จักในนาม เอล โลโค ที่หมายความว่า “คนระห่ำ” หรือ แดเนียล บาร์เรรา บาร์เรรา(Daniel Barrera Barrera) จากโคลอมเบียถูกเกรกอรี วูดส์(Gregory Woods)ผู้พิพากษาศาลแขวงแมนฮัตตันสั่งจำคุกในวันจันทร์(25 ก.ค) หลังจากยอมรับสารภาพในความผิดทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และรวมไปถึงคดีฟอกเงิน
และนอกจากนี้ในคำพิพากษา วูดส์ยังสั่งปรับเงินเอล เอล โลโคอีกจำนวน 10 ล้านดอลลาร์ และยังออกคำสั่งยึดทรัพย์ราชายาเสพติดผู้นี้อีก 10 ล้านดอลลาร์ โดยผู้พิพากษาสหรัฐฯได้ชี้ว่า ราชายาเสพติดชาวโคลอมเบียผู้นี้ชาญฉลาด หรืออาจกล่าวได้ว่า มีพรสวรรค์ สามารถไต่เต้าจากคนงานในฟาร์มปศุสัตว์ขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าพ่อโคเคนระดับโลกได้สำเร็จ
และในการให้สัมภาษณ์ผ่านล่ามภาษาสเปนก่อนที่จะถูกส่งตัวเขาเรือนจำในนิวยอร์ก เอล โลโคเปิดใจว่า ในอนาคตข้างหน้า เขาหวังว่าจะถูกปล่อยตัว และสามารถกลับออกไปเห็นหน้าหลานได้ “ผมขอให้ทางครอบครัวยกโทษให้กับตัวผมด้วยในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และทำให้พวกเขาต้องประสบปัญหา"
ด้าน รูเบน โอลิวา (Ruben Oliva) ทนายความของเอล โลโคได้กล่าวในศาลว่า “เป็นการสั่งจำคุกที่ไม่มีเหตุผล และเกินขอบเขตของความจำเป็น”
รอยเตอร์รายงานต่อว่า ข้อมูลที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่พบว่า เอล โลโค อยู่ในวัย 48 ปีเคยเป็นอดีตราชายาเสพติดตัวฉกาจมานานกว่า 20 ปีก่อนที่เขาจะถูกจับกุมในปี 2012 ที่เวเนซุเอลา หลังจากที่หนีกบดานอยู่หลายปีก่อนหน้านั้น
และยังพบว่า เอล โลโคสามารถฟอกเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์ที่ได้มาจากกำไรจากการผลิตและขายผงโคเคนจากการแปรรูปโคเคนดิบจำนวน 5,000 ก.กในแต่ละเดือนตั้งแต่ปี1998 นอกจากนี้ยังพบว่าเจ้าพ่อยาเสพติดโคลอมเบียรายนี้เคยผ่านการทำศัลยกรรมตกแต่งอยู่หลายครั้ง และมีประวัติการใช้กรดความเข้มข้นสูงทำลายลายนิ้วมือตัวเองเพื่อการพรางตัว ซึ่งหลักฐานจำนวนมากมัดตัวความผิดเอล โลโคยังรวมไปถึงภาพถ่าย เอกสารการยึดโคเคนล็อตใหญ่บริเวณนอกชายฝั่งเวเนซุเอลาและรัฐฟลอริดา
รอยเตอร์รายงานต่อว่า อัยการสหรัฐฯได้ชี้ว่าในช่วงปี 1998 – 2010 เอล โลโค ดำเนินการผลิตและลักลอบส่งขาย ซึ่งคิดแล้วเป็นจำนวนถึง 5,000 ก.กต่อเดือน และเป็นผลให้มีโคเคนผลิตได้จำนวนไม่ต่ำกว่า 720 ตันถูกผลิตด้วยฝีมือของราชายาเสพติดวัย 48 ปีผู้นี้
และในส่วนการจัดหาวัตถุดิบ รอยเตอร์รายงานว่า เอล โลโคจัดซื้อวัตถดิบโคเคน cocaine paste จากกลุ่มกบฎซ้ายจัด FARC และนำไปผลิตต่อในห้องแล็บในพื้นที่ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธ กองกำลังปกป้องตัวเองแห่งโคลอมเบีย(he United Self-Defense Forces of Colombia) หรือ AUC
ส่งผลทำให้องค์กรยาเสพติดของเอล โลโคสามารถทำเงินได้หลายล้านดอลลาร์ที่เอล โลโคนำไปฟอกเงินต่อ ซึ่งองค์กรยาเสพติดของเขาได้รับการคุ้มครองจากกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ และเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายท้องถิ่น และพบว่ามีคนเป็นจำนวนมากที่มีหนี้สิ้น หรือตั้งตัวเป็นศัตรู ต้องถูกคุกคาม หรือถูกสังหารภายใต้การสั่งการของชายผู้นี้ อัยการสหรัฐฯชี้ต่อ
รอยเตอร์รายงานว่า ในเดือนมีนาคม 2010 กระทรวงการคลังสหรัฐฯได้ขึ้นบัญชีดำเอล โลโคเป็นราชายาเสพติดที่ต้องการตัวมากที่สุด และฉากชีวิตของการเป็นเจ้าพ่อของเอล โลโคต้องปิดลงในเดือนกันยายน 2012 เมื่อเขาถูกทางการเวเนซุเอลาถูกจับกุมตัวได้สำเร็จ และหลังจากนั้นได้ถูกส่งตัวต่อกลับไปยังโคลอมเบีย ประเทศบ้านเกิด ก่อนสหรัฐฯจะทำกดดันให้ส่งตัวเอล โลโคมายังสหรัฐฯในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อรับโทษ ซึ่งเป็นที่เอล โลโคต้องขึ้นศาลรับทราบความผิดใน 3 คดีต่างกันในแมนแฮตตัน บรุ๊กลิน และไมอามี
ในขณะเดียวกันแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เวเนฯแถลง ได้ยึดบ้าน ฟาร์มและเรือยอร์ช รวมไปถึงอพาทเมนต์ และรถยนต์ส่วนตัวอีก 48 คันของเจ้าพ่อยาเสพติดโคลอมเบียรายนี้ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเผยกับรอยเตอร์