เอเจนซีส์ – กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ฟ้องยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ที่พัวพันกับ 1MDB กองทุนฉาวที่ผู้นำมาเลเซียก่อตั้ง และให้ภาพการฉ้อฉลใน “ระดับมโหฬาร” ด้านกัวลาลัมเปอร์แถลงยืนยันความบริสุทธิ์ของนายกรัฐมนตรี พร้อมประกาศให้ความร่วมมือในการสอบสวนเต็มที่ ขณะที่ฝ่ายค้านแดนเสือเหลืองปลุกกระแสเรียกร้องนาจิบ ราซัค ลาออก รวมทั้งให้ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบคดีฉ้อฉลนี้ และมหาเธร์เสนอจัดประชามติชี้ขาดความชอบธรรมในการเป็นผู้นำของนาจิบ
คดีความที่ฟ้องร้องไปเมื่อวันพุธ (20) ที่แคลิฟอร์เนีย ทำให้นาจิบ ผู้นำมาเลเซีย ตกที่นั่งลำบากอีกครั้ง เพราะแม้เอกสารคำฟ้องไม่ได้ระบุชื่อเขาโดยตรง แต่ระบุว่า ผู้ได้รับผลประโยชน์จากการฉ้อฉลมูลค่ากว่า 3,500 ล้านดอลลาร์นี้คือลูกเขยและเพื่อนของครอบครัวนาจิบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่อีกหลายคน
ทรัพย์สินที่เป็นเป้าหมายการฟ้องร้องเชื่อว่า เป็นผลพวงการยักยอกเงินจากกองทุนการลงทุนของรัฐบาลมาเลเซียคือ 1MDB และนำไปซื้องานศิลปะ อสังหาริมทรัพย์หรูหราในอเมริกา เครื่องบินส่วนตัว
ไรซา อาซิส ลูกเขยของนาจิบ ยังใช้เงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์จากกองทุนต้องสงสัยนี้สนับสนุนการสร้างหนัง “เดอะ วูล์ฟ ออฟ วอลล์สตรีท” ของมาร์ติน สกอร์เซซี เมื่อปี 2013
ลอเรตตา ลินช์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ แถลงว่า กระทรวงฯ จะไม่ยอมให้ระบบการเงินของอเมริกาถูกนำไปใช้เป็นช่องทางในการทุจริต
การยึดทรัพย์สินครั้งนี้จะถือว่า มีมูลค่ามากที่สุดภายใต้แผนการฟื้นฟูสินทรัพย์เคลปโตเครซีปี 2010 ที่พุ่งเป้าตรวจสอบเงินหรือสิ่งที่ได้มาโดยผิดกฎหมายของบรรดาผู้นำทั่วโลกที่ใช้อเมริกาเป็นทางผ่าน
1MDB หรือ 1 มาเลเซีย ดิเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด เป็นกองทุนที่ก่อตั้งและควบคุมโดยนาจิบในปี 2009 ภายใต้วัตถุประสงค์ในการลงทุนในโครงการสำคัญทางเศรษฐกิจ
แอนดริว แมกคาบี รองผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) กล่าวว่า ชาวมาเลเซียถูกฉ้อโกงอย่างมโหฬาร และอเมริกากำลังดำเนินการเพื่อนำเงินเหล่านั้นคืนให้มาเลเซีย
อัยการสหรัฐฯ ยังพยายามยึดค่ารอยัลตี้จากหนังที่ผลิตโดยเรด กราไนต์ บริษัทของอาซิส รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ในย่านเบฟเวอรีฮิลส์ นิวยอร์ก และลอนดอน ผลงานของโมเนต์และแวนโก๊ะห์ และเครื่องบินส่วนตัวบอมบาร์เดียร์ โกลบัล 5000
คำร้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยังกล่าวหาว่า โล เต็ก โฮ หรือโฮ โล นักธุรกิจคนดังของมาเลเซียที่ใกล้ชิดกับครอบครัวนาจิบ และช่วยก่อตั้ง 1MDB ฟอกเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ในอเมริกาเพื่อนำเงินไปบำเรอไลฟ์สไตล์สุดหรู เช่น ระหว่างปี 2009-2010 โลถูกกล่าวหาว่า โอนเงิน 85 ล้านดอลลาร์ไปยังกาสิโนแห่งหนึ่งในลาสเวกัส
ส่วนนาจิบที่แม้ไม่ถูกระบุชื่อโดยตรง แต่ในเอกสารคำฟ้องมีการกล่าวถึง “เจ้าหน้าที่มาเลเซีย 1” ซึ่งบรรยายว่า เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ควบคุม 1MDB และในปี 2013 ได้รับเงิน 681 ล้านจากการขายพันธบัตรโดย 1MDB ซึ่งโอนเข้าบัญชีส่วนตัวโดยตรง อันเป็นข้อกล่าวหาเดียวกับที่มีการสอบสวนในมาเลเซียก่อนหน้านี้กรณีที่มีการโอนเงินเข้าบัญชีนาจิบ 681 ล้านดอลลาร์ และแหล่งข่าววงในยืนยันว่า “เจ้าหน้าที่มาเลเซีย 1” ก็คือนาจิบนั่นเอง
ทั้งนี้ อัยการใหญ่มาเลเซียระบุในเดือนมกราคมว่า เงินที่โอนเข้าบัญชีนาจิบคือเงินบริจาคทางการเมืองจากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย และสามเดือนต่อมา รัฐมนตรีต่างประเทศริยาด อาเดล อัล-จูเบียร์ ออกมายืนยันเรื่องนี้ ทว่า ล่าสุด โฆษกสถานทูตซาอุดีฯ ในวอชิงตันกลับปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่องนี้
นาจิบนั้นปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับ 1MDB มาตลอด โดยอ้างว่า เป็นการโจมตีทางการเมืองของศัตรูในประเทศ
สำหรับหนนี้ โฆษกของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียย้ำเมื่อวันพฤหัสฯ (21) ว่า จากการตรวจสอบของทางการมาเลเซียไม่พบการกระทำผิด แต่พร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบของนานาชาติ
ขณะเดียวกัน การฟ้องร้องของอเมริกาปลุกกระแสเรียกร้องให้นาจิบลาออกและเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง วันพฤหัสฯ แฮชแท็ก #MalaysianOfficial1 ระบาดในโลกออนไลน์แดนเสือเหลือง
ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน พีเพิลส์ จัสติส ปาร์ตี้ เรียกร้องให้นาจิบลาออก ขณะที่วัน อาซิซาห์ อิสมาอิล ภรรยาของอันวาร์ อิบราฮิม อดีตผู้นำฝ่ายค้านคนสำคัญที่ปัจจุบันถูกจำคุก ประกาศว่า รัฐบาลควรผลักดันให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบคดีที่อเมริกาฟ้องร้องล่าสุด
ด้านอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวว่า มาเลเซียควรจัดให้มีการลงประชามติเพื่อตัดสินความเป็นผู้นำของนาจิบ พร้อมเปิดตัวแนวร่วมฝ่ายค้านใหม่ที่อันวาร์ให้การรับรอง
ปัจจุบัน 1MDB ถูกตรวจสอบกรณีการฟอกเงินในอย่างน้อย 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์
วันพฤหัสฯ ธนาคารกลางสิงคโปร์แถลงว่า เจ้าหน้าที่ได้ยึดทรัพย์สินมูลค่า 240 ล้านดอลลาร์ของ 1MDB ที่เกี่ยวพันกับการสอบสวนกรณีการฟอกเงิน ฉ้อโกงหลักทรัพย์ และความผิดอื่นๆ โดยครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินที่ยึดเป็นของโล เต็ก โฮ และญาติสนิท การตรวจสอบยังพบ “ความบกพร่อง” ของธนาคารใหญ่หลายแห่งในสิงคโปร์
ในส่วนผู้ที่มีรายชื่อพัวพันในการฟ้องร้องของอเมริกา อย่างเรด กราไนต์ แถลงว่า ไม่รู้เห็นเกี่ยวกับกองทุนที่ไม่เหมาะสม และพร้อมให้ความร่วมมือในการสอบสวน ขณะที่ 1MDB ออกแถลงการณ์ย้ำว่า ไม่ได้ตกเป็นจำเลยในการฟ้องร้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แต่ไม่ยอมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหายักยอกเงินในกองทุน.