เอเอฟพี - ประธานสหภาพยุโรป โดนัลด์ ทัสค์ และ ฌอง-โคลด จุงเกอร์ ออกมาให้การสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดี เรเซป ตอยยิป เออร์โดแกน ในวันนี้ (16) พร้อมเรียกร้องให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วหลังจากความพยายามรัฐประหาร
"ตุรกีเป็นหุ้นส่วนสำคัญในสหภาพยุโรป อียูสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตย สถาบันต่างๆ ของประเทศนี้ และหลักนิติธรรม" ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรปและ จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมการยุโรป กล่าวในถ้อยแถลงร่วม
"เราเรียกร้องให้กลับคืนสู่ระเบียบตามรัฐธรรมนูญของตุรกีโดยเร็ว" ถ้อยแถลงนี้ซึ่งออกมาจากการประชุมซัมมิทเอเชีย-ยุโรปในมองโกเลียที่จัดขึ้นโดย เฟเดริกา โมเกรินี ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของอียู ระบุเสริม
"เราจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไปและจะประสานงานกับชาติสมาชิกอียู 28 ประเทศ"
โมเกรินีเรียกตัวแทนชาติสมาชิกประชุมด่วนในกรุงอูลานบาตอร์ ซึ่งพวกเขาได้แสดงการสนับสนุนสถาบันประชาธิปไตยของประเทศนี้และประณามการใช้ความรุนแรงต่อสถาบันเหล่านี้" อียูระบุในถ้อยแถลงอีกฉบับหนึ่ง
"เราเห็นพ้องว่าการเพิ่มระดับความรุนแรงใดๆก็ตามที่ส่งผลถึงพลเรือนต้องถูกหลีกเลี่ยง" ถ้อยแถลงนี้ระบุเสริม
องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และประธานาธิบดี บารัค โอบามา ก็สนับสนุนสถาบันประชาธิปไตยของประเทศนี้เช่นกันภายหลังความพยายามรัฐประหารดังกล่าว
บรัสเซลส์กำลังติดตามสถานการณ์นี้ในตุรกีด้วยความกังวลอย่างยิ่ง ประเทศแห่งนี้เป็นหุ้นส่วนสำคัญในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรปซึ่งพยายามที่จะเข้าร่วมอียูมาเป็นเวลาหลายปีแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ตุรียังเป็นหุ้นส่วนที่จำเป็นสำหรับอียูด้วยเนื่องด้วยข้อตกลงที่พวกเขาลงนามกันในเดือนมีนาคมที่จะจัดการกับวิกฤตผู้ลี้ภัย
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว อังการมยอมที่จะรับผู้อพยพและผู้ลี้ภัยคืนจากเกาะต่างๆของกรีซและจะหยุดไม่ให้พวกเขาข้ามทะเลอีเจียน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนตุรกีจะได้รับความช่วยเหลือและสิทธิในการเดินทางไปอียูโดยไม่ต้องใช้วีซ่าสำหรับชาวตุรกี 80 ล้านคน
เพื่อที่จะลงนามข้อตกลงนี้ อียูได้สะกดความไม่พอใจที่มีต่อการปกครองที่ความเผด็จการมากขึ้นเรื่อยๆ ของเออร์โดกัน ซึ่งเคยถูกพวกเขาวิจารณ์อย่างรุนแรง
ในตอนนี้เรื่องของตุรกีน่าจะครอบงำการประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอียูในวันจันทร์ (18) ซึ่ง จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะเข้าร่วมด้วย