เอเอฟพี - เหล่าผู้บริหารการเงินของสหภาพยุโรปในวันอังคาร (12 ก.ค.) เร่งเร้า เธเรซา เมย์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ให้เร่งรัดกรอบเวลาถอนตัวจากอียูของประเทศ เตือนความล่าช้าอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ
ขณะเดียวกัน โฆษกของนายฌอง โคล้ด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ยืนยันว่าประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและอดีตนายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กรายนี้สามารถรับมือกับการเจรจากับเมย์ได้ แม้ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษจะได้รับฉายาในลอนดอนว่า “ผู้หญิงที่ต่อกรด้วยยาก” ก็ตาม
ในความเคลื่อนไหวกดดันอังกฤษหนล่าสุด ปิแอร์ มอสโควิซี หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจของคณะกรรมาธิการยุโรป บอกว่า เมย์ควรเหนี่ยวไกนำอังกฤษแยกตัวออกจากอียูเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากเธอเข้ารับตำแหน่งในวันพุธ (13 ก.ค.)
“พรรคคอนเซอร์เวทีฟดำเนินการอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่คาดหมายว่าจะมีผู้มาแทน(นายกรัฐมนตรี) เดวิด คาเมรอน ในเดือนกันยายน เราเพิ่งอยู่ในเดือนกรกฎาคม แล้วทำไมเราถึงจะเสียเวลาไปเปล่าๆ อีก 2 เดือนล่ะ” มอสโควิซี ตัวแทนของฝรั่งเศสในคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าว
“หากเป็นไปได้ ขั้นตอนการหารือกับสหภาพยุโรปก็ควรเร่งรัดเช่นกัน นั่นคือสิ่งที่ผมคิดว่าผู้คนจำนวนมากคาดหมาย ตั้งความหวังและเรียกร้อง” เขาบอกกับผู้สื่อข่าวขณะกำลังเข้าหารือกับเหล่ารัฐมนตรีคลังของอียู “การเร่งรัดกระบวนการทางการเมืองในอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อที่ความไม่แน่นอนจะได้หมดไป” มอสโควิซีระบุ
ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน มอสโควิซีเตือนเกี่ยวกับผลกระทบทางลบของเบร็กซิต โดยบอกว่ามันอาจกัดเซาะการเติบโตในอังกฤษ เช่นเดียวกับอียูและยูโรโซน
มิเชล ซาแปง รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสก็เรียกร้องเช่นกันให้เมย์เร่งดำเนินการถอนตัว ตามหลังชาวอังกฤษลงประชามติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนแยกตัวจากอียู “หนึ่งในปัญหาของยุโรปคือกระบวนการที่ล่าช้าของการตัดสินใจในเรื่องนี้ พวกเขาต้องดำเนินการเป็นรูปเป็นร่างและก้าวหน้ากว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งมันเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของเบร็กซิต”
ทั้งนี้ ซาแปงยังตำหนิอังกฤษว่าขาดการเตรียมการโดยรวมสำหรับการแยกตัวออกจากอียู และขาดความเข้าใจในกลไกต่างๆ
นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป รัฐมนตรีคลังเนเธอร์แลนด์ บอกว่า ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอน “ดังนั้นผมจึงอยากพูดว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่ออังกฤษเองหากมีความชัดเจนเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในเรื่องความสัมพันธ์ในอนาคตของพวกเขากับอียู” เขากล่าว
ความคิดเห็นเหล่านี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องเมย์ให้แสดงความชัดเจนโดยเร็วเกี่ยวกับรูปแบบความสัมพันธ์ที่อังกฤษต้องการมีกับอียูในอนาคต
เหล่าผู้นำยุโรปปฏิเสธเจรจาการค้าและความสัมพันธ์กับอังกฤษตามหลังผลโหวตเบร็กซิต จนกว่าอังกฤษจะใช้อำนาจตามมาตรา 50 อย่างเป็นทางการ แต่เมย์บอกว่าเธอจะไม่ดำเนินการเช่นนั้นจนกว่าอย่างเร็วที่สุดก็จนถึงปีหน้า