เอเจนซีส์ / MGR online – มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 150 นาย หลังเกิดเหตุปะทะกันในกรุงจูบาเมืองหลวงของซูดานใต้ตั้งแต่วันศุกร์ (8 ก.ค.) ต่อเนื่องจนถึงวันเสาร์ (9 ก.ค.) ถือเป็นข่าวร้ายที่สั่นคลอนเสถียรภาพของซูดานใต้ ในขณะที่มีการเฉลิมฉลองการเป็นเอกราชครบรอบ 5 ขวบปีของประเทศนี้
รายงานข่าวซึ่งอ้างโรมัน เอ็นยาร์จี โฆษกประจำตัวของรีค มาชาร์ ผู้นำฝ่ายกบฏซึ่งในเวลานี้ได้กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีอีกครั้งในรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ระบุว่า การปะทะกันระหว่างทหารฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏในครั้งนี้ ส่งผลให้มีทหารของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตรวมแล้วอย่างน้อย 150 นายและมีแนวโน้มที่ยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับการเปิดเผยของโฆษกประจำตัวของประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์ ผู้นำซูดานใต้
เหตุยิงปะทะกันอย่างดุเดือดในเมืองหลวงของซูดานใต้ครั้งนี้ ถูกระบุว่า มีจุดเริ่มต้นมาจากการปะทะฝีปากกันระหว่าง “บอดี้การ์ด”ของคิอีร์และมาชาร์ก่อนจะมีการชักอาวุธปืนยิงเข้าใส่กัน และลุกลามบานปลายไปสู่การปะทะกันเต็มรูปแบบระหว่างกองกำลังของทั้งสองฝ่าย
ทั้งประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์และรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์ ออกมายอมรับว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นล่าสุดเป็น “โชคร้าย” ขณะที่รัฐบาลของหลายประเทศออกโรงเตือนพลเมืองของตนในซูดานใต้ ให้เร่งเดินทางออกจากประเทศนี้โดยเร็ว หรือไม่ก็ขอให้อยู่แต่ในโรงแรมหรือที่พัก
ทั้งนี้ ซูดานใต้ซึ่งเพิ่งเป็นเอกราช หลังการแยกตัวออกจากซูดานเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2011 ต้องเผชิญกับภาวะสงครามกลางเมืองตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2013 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายหมื่นราย ขณะที่ชาวซูดานใต้กว่า 3 ล้านคนต้องกลายสภาพเป็นผู้อพยพ และอีกเกือบ 5 ล้านคนต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือด้านอาหาร