สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานว่า นายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็น แถลงเมื่อวันจันทร์ เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) อนุมัติการเพิ่มจำนวนกองกำลังรักษาสันติภาพในซูดานใต้ และออกมาตรการคว่ำบาตรด้านอาวุธต่อรัฐบาลจูบาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากการที่ความขัดแย้งทางการเมืองบานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมืองครั้งใหม่ เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน และขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูสันติภาพ ที่มีการลงนามเมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว
ถ้อยแถลงของนายบันมีขึ้นในวเลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์ ผู้นำซูดานใต้ และรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์ ซึ่งเป็นอดีตผู้นำกลุ่มกบฏ ต่างออกมาแถลงขอให้ทหารและกองกำลังของตัวเองหยุดยิง หลังการต่อสู้ที่ปะทุขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายร้อยศพ
อย่างไรก็ตามกลับมีรายงานเสียงปืน และเสียงระเบิดดังหลังจากนั้นอีกขึ้นเป็นระยะ
ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ประณามการสู้รบครั้งใหม่ในซูดานใต้ และเรียกร้องให้มีการร่วมกันหาทางยุติด้วยสันติวิธี
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทยอยอพยพเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่มีภารกิจจำเป็นออกจากสถานเอกอัครราชทูตในกรุงจูบาแล้วตั้งแต่วันจันทร์
ซูดานใต้เป็นประเทศเกิดใหม่ที่ได้รับเอกราช และการรับรองจากยูเอ็นเมื่อปี 2554 แต่กลับเผชิญกับการไร้เสถียรภาพในแทบทุกด้านอย่างรวดเร็ว โดยสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2556 จากการที่คิอีร์ ซึ่งเป็นชาวเผ่าดินกาสั่งปลดมาชาร์ ซึ่งเป็นชาวเผ่านัวร์ออกจากตำแหน่งรองประธานาธิบดี การสู้รบดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 50,000 ศพ และมากกว่า 1 ล้านคน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย โดยประชาชนจำนวนมากพากันหลบหนีข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านและบางส่วนขอเข้ามาลี้ภัยในฐานทัพของยูเอ็น
ถ้อยแถลงของนายบันมีขึ้นในวเลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์ ผู้นำซูดานใต้ และรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์ ซึ่งเป็นอดีตผู้นำกลุ่มกบฏ ต่างออกมาแถลงขอให้ทหารและกองกำลังของตัวเองหยุดยิง หลังการต่อสู้ที่ปะทุขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายร้อยศพ
อย่างไรก็ตามกลับมีรายงานเสียงปืน และเสียงระเบิดดังหลังจากนั้นอีกขึ้นเป็นระยะ
ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ประณามการสู้รบครั้งใหม่ในซูดานใต้ และเรียกร้องให้มีการร่วมกันหาทางยุติด้วยสันติวิธี
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทยอยอพยพเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่มีภารกิจจำเป็นออกจากสถานเอกอัครราชทูตในกรุงจูบาแล้วตั้งแต่วันจันทร์
ซูดานใต้เป็นประเทศเกิดใหม่ที่ได้รับเอกราช และการรับรองจากยูเอ็นเมื่อปี 2554 แต่กลับเผชิญกับการไร้เสถียรภาพในแทบทุกด้านอย่างรวดเร็ว โดยสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2556 จากการที่คิอีร์ ซึ่งเป็นชาวเผ่าดินกาสั่งปลดมาชาร์ ซึ่งเป็นชาวเผ่านัวร์ออกจากตำแหน่งรองประธานาธิบดี การสู้รบดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 50,000 ศพ และมากกว่า 1 ล้านคน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย โดยประชาชนจำนวนมากพากันหลบหนีข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านและบางส่วนขอเข้ามาลี้ภัยในฐานทัพของยูเอ็น