เอเจนซีส์ / MGR online – กองทัพไนจีเรียในช่วงค่ำวันจันทร์ (4 ก.ค.) ประสบความสำเร็จในการปลิดชีพมือระเบิดฆ่าตัวตายที่เป็นสตรีจำนวน 3 ราย ที่พยายามก่อเหตุโจมตีค่ายผู้อพยพในเมืองมุนโกโน
คำแถลงของกองทัพไนจีเรียระบุว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งสามรายนี้ล้วนเป็นสมาชิกของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์สุดโต่ง “โบโก ฮารัม” ซึ่งถูกปลิดชีพขณะพยายามก่อเหตุโจมตีค่ายผู้อพยพพลัดถิ่นภายในประเทศซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองมุนโกโนราว 3 กิโลเมตร
รายงานข่าวระบุว่า แม้ทหารไนจีเรีย จะสามารถยิงมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงทั้ง 3 รายจนถึงแก่ความตาย แต่ก็ไม่อาจยับยั้งการระเบิดของวัตถุระเบิดที่ถูกผูกติดไว้กับลำตัวของพวกเธอได้ เป็นเหตุให้มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดนี้อย่างน้อย 2 ราย ซึ่งขณะนี้ถูกส่งตัวไปรับการรักษายังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ ปัญหาความไม่สงบและเหตุรุนแรงที่ก่อโดยกลุ่มติดอาวุธโบโก ฮารัมที่เริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2009 ส่งผลให้เวลานี้มีชาวไนจีเรีย และผู้คนในประเทศเพื่อนบ้านรายรอบภูมิภาคทะเลสาบชาด ทั้ง ชาด แคเมอรูน และไนเจอร์ ที่ต้องกลายสภาพเป็นผู้อพยพแล้วกว่า 20 ล้านราย
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีมู ฮัมมาดู บูฮารี ผู้นำไนจีเรีย ประกาศกร้าวเมื่อเดือนธันวาคม ระบุกองทัพไนจีเรียเป็นฝ่ายมีชัยชนะในทางเทคนิคเหนือกลุ่มติดอาวุธอิสลา มิสต์ “โบโกฮารัม” แล้ว โดยยืนยันว่าทางกองทัพสามารถทำลายศักยภาพในการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มสุดโต่ง ที่เคลื่อนไหวอยู่ทางภาคเหนือของประเทศกลุ่มนี้ลงได้อย่างสำคัญ
ผู้นำดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดของทวีปแอฟริกา เผยผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์บีบีซี โดยระบุว่า การกวาดล้างอย่างหนักของกองทัพไนจีเรียตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทำลายขีด ความสามารถในการก่อเหตุโจมตีเต็มรูปแบบของกลุ่มโบโกฮารัมลงได้อย่างสำคัญ จนกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งกลุ่มนี้ต้องหันไปใช้เพียงการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ในระยะหลัง ซึ่งนั่นหมายความว่าทางการไนจีเรียเป็นฝ่ายที่มีชัยชนะในทางเทคนิค เหนือกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้แล้ว ถึงแม้จะยังไม่สามารถกำจัดกลุ่มโบโกฮารัมได้อย่างสิ้นซากก็ตาม
ก่อนหน้านี้ อดีตนายพลชื่อดังอย่างบูฮารี ที่สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งผู้นำไนจีเรียได้เมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ประกาศกำหนดเส้นตายให้ทางกองทัพขุดรากถอนโคนภัยคุกคามจากกลุ่มโบโกฮารัม ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2015 และประกาศเดินหน้าสร้างงาน และขยายโอกาสทางการศึกษาแก่บรรดาเยาวชนในพื้นที่ ห่างไกลแถบตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หวังป้องกันมิให้เยาวชนในพื้นที่ถูกดึงเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธนี้ ที่มีจุดมุ่งหมายในการสถาปนาการปกครองแบบรัฐอิสลามสุดโต่งขึ้นในภาคเหนือของไนจีเรีย
ทั้งนี้ เหตุรุนแรงที่ก่อโดยกลุ่มโบโกฮารัม ซึ่งดำเนินมานานกว่า 6 ปีนับตั้งแต่ปี 2009 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วไม่น้อยกว่า 20,000 ราย ขณะที่ประชาชนอีกเกือบ 20 ล้านคนต้องอพยพหนีตายออกจากบ้านเรือนของตัวเอง โดยในระยะหลังกลุ่มโบโกฮารัมซึ่งต้องการสถาปนา “รัฐอิสลามสุดโต่ง” ขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรียได้เริ่มข้ามเขตแดนไปก่อเหตุรุนแรงในประเทศไนเจอร์ แคเมอรูน และชาด ต่อเนื่อง ตลอดจนประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและอิรัก ไปก่อนหน้านี้