เอเจนซีส์ / MGR online - สำนักงานสหประชาชาติเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมเผยในวันจันทร์ (16 พ.ค.) มีประชากรมากกว่า 9 ล้านคนในภูมิภาครอบทะเลสาบชาด (Lake Chad) ที่กำลังตกอยู่ในภาวะขาดแคลน และต้องการความช่วยเหลือด้านอาหารอย่างเร่งด่วนจากผลพวงภัยคุกคามจากความรุนแรงที่ก่อโดยกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโก ฮารัม”
ในคำแถลงของสำนักงานสหประชาชาติเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมที่มีการเผยแพร่ในวันจันทร์ (16) ระบุว่า ราวครึ่งหนึ่งของประชากรในภูมิภาคแห่งนี้ของทวีปแอฟริกากำลังเผชิญภาวะความไม่มั่นคงทางอาหารแบบเรื้อรัง รวมถึงภาวะขาดสารอาหาร จากผลพวงของความรุนแรงที่ก่อขึ้นโดยกลุ่มโบโก ฮารัมทั้งในไนจีเรียและอีกหลายประเทศในแถบนี้ และภัยคุกคามจากกลุ่มอิสลามิสต์สุดโต่งกลุ่มนี้ ถือเป็นวิกฤตที่ผลักดันให้เกิดคลื่นผู้อพยพที่ใหญ่ที่สุดของแอฟริกาในเวลานี้
ข้อมูลของยูเอ็นระบุว่า ความรุนแรงและปัญหาความไม่สงบที่เป็นผลพวงมาจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธโบโก ฮารัม ได้คร่าชีวิตผู้คนในภูมิภาคทะเลสาบชาดไปแล้วไม่น้อยกว่า 20,000 ราย ขณะที่อีกมากกว่า 2.4 ล้านคนต้องอพยพหนีตายออกจากบ้านเรือนของตนนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา
ตลอดระยะเวลาหลายเดือนมานี้ กลุ่มโบโก ฮารัมซึ่งมีต้นกำเนิดในไนจีเรียและได้ประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและอิรัก ได้ยกระดับการโจมตีและการวางระเบิดในหมู่บ้านหลายแห่งของประเทศเพื่อนบ้านอย่างชาด รวมทั้งไนเจอร์ และแคเมอรูน
ที่ผ่านมาประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ได้ร่วมมือกันจัดตั้งกองกำลังร่วมที่มีกำลังพลราว 8,700 นายสำหรับปราบปรามกลุ่มโบโก ฮารัม โดยเฉพาะ แต่ปัญหาด้านงบประมาณกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ภารกิจของกองกำลังนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
