รมว.มหาดไทย หวังทุกฝ่ายเห็นแก่ความสงบสุข ไม่ก่อความวุ่นวาย ยันถ้าประเมินว่ามีเหตุลุยได้ทันที ขณะที่ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ถกแผนรักษาความปลอดภัยสีลม สั่งเป็นพื้นที่เล่นน้ำปลอดแอลกอฮอล์
วันนี้ (12 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.50 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่เพื่อดูความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมถึงเรื่องความมั่นคงเราก็จะดูแล หวังว่า ทุกฝ่ายจะเห็นแก่ความสงบสุขของประเทศชาติ ไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย เมื่อถามว่า ทางการข่าวจะมีการเคลื่อนไหวในช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ เพราะมีการจับขันแดงในพื้นที่ภาคเหนือ และอีสาน พล.อ.อนุพงษ์ ตอบว่า หากมีอะไรที่คิดว่ามีนัยยะก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการ ถ้าประเมินว่าอาจจะมีเหตุวุ่นวายสามารถดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องสั่งการเพิ่มเติม ขณะนี้โดยภาพรวมสถานการณ์เรียบร้อยดี และห้วงเวลาขณะนี้ถึงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จะไม่มีการเพิ่มกำลังในพื้นที่ เมื่อถามถึงกรณีพรรคการเมืองไม่เห็นด้วยกับถามพ่วงประชามติ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทุกคนสามารถมีความคิดได้ แต่หากไปปลุกปั่นก็คิดว่าไม่เหมาะสม เพราะประชาชนทุกคนมีสิทธิพิจารณาเอง การจะไปพูดวิจารณ์สร้างกระแสให้เขาเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ถือเป็นการล่วงล้ำสิทธิของประชาชน
ขณะที่ โรงแรมดุสิตธานี พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) เป็นประธานประชุมแผนรักษาความปลอดภัยสถานที่จัดงานสงกรานต์ ถ.สีลม เขตบางรัก ระหว่างวันที่ 13 - 14 เม.ย. 59 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลที่ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เป็นหน่วยขับเคลื่อนในการประสานงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 12 - 17 เม.ย. 2559 โดยให้มีมาตรการป้องกันไม่ให้มีการสูญเสียเนื่องจากการก่อความไม่สงบของผู้ไม่หวังดีในพื้นที่จัดงานสงกรานต์ และจากการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนในการเล่นสงกรานต์ โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 602 นาย หน่วยร่วมปฏิบัติ 286 นาย และกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร 80 นาย
ทั้งนี้ พล.ต.เฉลิมพล กล่าวภายหลังการประชุม ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมหารือกันมาต่อเนื่อง โดยมี กทม. เป็นเจ้าภาพและเชิญหน่วยที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อจัดงาน โดยมีการจัดกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เทศกิจ มูลนิธิต่าง ๆ ดูแล หากมีผู้ได้รับความเดือดร้อน วันนี้เป็นการพูดคุยกันว่ามีอะไรที่ยังเป็นช่องว่างในการเตรียมการช่วงที่ผ่านมาหรือไม่ จากการประชุมพบว่าทุกอย่างยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะลักษณะการจัดงานในพื้นที่สีลมที่ผ่านมา มีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จากประสบการณ์การจัดงานยังไม่มีเหตุรุนแรง แต่จะพบเพียงแต่มีมิจฉาชีพลักทรัพย์ ล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋า แต่ยังไม่มีเรื่องบาดเจ็บอื่น ๆ ในส่วนของปีนี้ก่อนที่จะมีการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามาในเวลา 12.00 น. วันที่ 13 เม.ย. และวันที่ 14 เม.ย. ทางเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจความปลอดภัยของพื้นที่ โดยประชาชนที่เข้ามาในแต่ละช่องทางทั้งบริเวณแยกศาลาแดง และถนนสีลม ที่ตัดกับถนนนราธิวาสฯ จะมีทางเข้าตรงซอยบางรักจะไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะเข้ามา ซึ่งทุกจุดจะมีเจ้าหน้าที่คัดกรอง เพื่อตรวจและดูความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่เข้ามาภายในงาน
พล.ต.เฉลิมพล กล่าวต่อว่า ในเรื่องของการมาเที่ยวควรจะนำเฉพาะอุปกรณ์สิ่งของที่จำเป็นและอุปกรณ์เล่นน้ำเท่านั้น ไม่ควรพกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาบริเวณงาน ซึ่งเราขอความร่วมมือ เนื่องจากจะต้องปลอดแอลกอฮอล์ ในส่วนการดำเนินการกับบุคคลที่ไม่ดำเนินการตามที่ขอร้องนั้น เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามระดับ เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลทั่วพื้นที่ โดยจะเชิญตัวมาพูดคุยขอความร่วมมือก่อน ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีพฤติกรรมผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินทางกฎหมายต่อไป สำหรับข้อมูลเรื่องเป้าหมายกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมลักทรัพย์ และกรีดกระเป๋า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีรายละเอียดอยู่แล้วสามารถดำเนินการได้ อีกทั้งมีกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) ด้วย
เมื่อถามถึงการดูแลความสงบที่อาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า เรื่องเหตุรุนแรงในปัจจุบันไม่มี ซึ่งจะมีเพียงแต่ประชาชนมาเที่ยวตามเทศกาล สำหรับเรื่องการแบ่งกำลังดูแลพื้นที่นั้น จะมีกองอำนวยการกองกำลังร่วมมีจุดหลักอยู่ที่บริเวณโรงแรมดุสิตธานี สน.ทุ่งมหาเมฆ สน.บางรัก เป็นส่วนปฏิบัติหลัก มีการติดต่อสื่อสารกัน แบ่งพื้นที่รับผิดชอบในถนนสีลมที่มีระยะทาง 955 เมตร เป็นโซน ๆ เพื่อให้การเข้าไปปฏิบัติมีความชัดเจน มีความกระชับและชัดเจนกันมากขึ้น
