เอเจนซีส์ - เหล่ารัฐมนตรีกลาโหมขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ให้ความเห็นชอบในวันพุธ (10 ก.พ.) ถึงแผนการที่จะเพิ่มการปรากฏตัวทางทหารในชาติสมาชิกซึ่งอยู่ทางยุโรปตะวันออกและทะเลบอลติก ซึ่งมีความระแวงภัยจากท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นของรัสเซีย ทั้งนี้ตามคำแถลงของ เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้
สโตลเตนเบิร์กกล่าวเมื่อวันพุธ (10) ว่า ในวันแรกของการประชุมเป็นเวลา 2 วันที่กรุงบรัสเซลส์, เบลเยียม คราวนี้ เหล่ารัฐมนตรีกลาโหมของ 28 ชาติสมาชิกนาโต้เห็นพ้องกันในแผนการต่างๆ สำหรับ “การเพิ่มการปรากฏตัวของกองกำลังส่วนหน้าในทางด้านตะวันออกของกลุ่มพันธมิตรของเรา”
ตามแผนการเหล่านี้จะมีทั้งการสร้างเครือข่ายที่มั่นทางทหารของนาโต้แห่งใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น, การจัดตั้งคลังสรรพาวุธเตรียมพร้อมใช้ให้มากขึ้น, การระดมกองทหารสู้รบจำนวนเพิ่มขึ้นอีกหลายพันคนซึ่งจะมาจากหลายๆ ชาติสมาชิกจัดกำลังสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาโดยไม่มีการอยู่ประจำเป็นค่ายถาวร รวมทั้งมีการจัดซ้อมรบกันเป็นประจำในดินแดนของหลายชาติสมาชิกนาโต้ทางยุโรปตะวันออกและทะเลบอลติก
เหล่ารัฐมนตรีกลาโหมของกลุ่มพันธมิตรนาโต้เรียกแผนการเช่นนี้ว่า เป็นการเพิ่มกำลังทหารนานาชาติครั้งใหม่เพื่อยกระดับการป้องกันของพวกรัฐสมาชิกแนวหน้า ซึ่งตกอยู่ในความเสี่ยงจากรัสเซียสูงที่สุด
ขณะที่นักวิเคราะห์ฝ่ายซ้ายบางคนมองว่า นี่คือการขยายโครงสร้างพื้นฐานทางการทหารในยุโรปตะวันออกและทะเลบอลติก พร้อมกับส่งทหารเพิ่มเติมหลายพันคนเข้าไปประจำการในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งประชิดติดชายแดนรัสเซีย เพื่อเป็นพื้นฐานให้แก่กองกำลังนานาชาติส่วนหน้ากองใหม่ที่มีภารกิจนำการจัดฝึกซ้อมรบของนาโต้เป็นประจำตามแนวชายแดนทางปีกตะวันตกของรัสเซีย
สโตลเตนเบิร์ก ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของนอร์เวย์ ย้ำว่า แผนการคราวนี้เรียกร้องให้ใช้ทหารจากหลายๆ ชาติผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าๆ ออกๆ พวกชาติสมาชิกในยุโรปตะวันออกและทะเลบอลติกเหล่านี้ แทนที่จะเข้าไปตั้งเป็นฐานทัพถาวร โดยที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่านี่เป็นการ “เลี่ยงบาลี” ไม่ให้ละเมิดข้อตกลงที่นาโต้กับรัสเซียทำกันไว้เมื่อปี 1997 ซึ่งระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะหลีกเลี่ยงการนำกำลังทหารขนาดใหญ่ไปประจำอยู่ตามแนวชายแดนที่ติดต่อกัน
เลขาธิการนาโต้แถลงด้วยว่า พวกเจ้าหน้าที่วางแผนทางทหารจะจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับจำนวนและส่วนประกอบที่จำเป็นของกองทหารเหล่านี้ให้เสร็จสิ้นภายในฤดูใบไม้ผลิปีนี้
กองทหารนี้ “จะมาจากหลายๆ ชาติเพื่อให้เป็นที่ชัดเจนว่าการโจมตีเล่นงานชาติพันธมิตรรายหนึ่งก็คือการโจมตีเล่นงานชาติพันธมิตรทั้งหมด และกลุ่มพันธมิตรนาโต้โดยองค์รวมจะดำเนินการตอบโต้” สโตลเตนเบิร์กกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวตะวันตกอย่างเช่นเอพี ชี้ว่า การที่จะให้ชาติสมาชิกทั้งหลายระบุยืนยันเรื่องการส่งทหารมาเข้าร่วม หรือแม้กระทั่งแค่การตัดสินใจว่าควรต้องใช้ทหารนาโต้จำนวนเท่าใดแน่เข้าสับเปลี่ยนหมุนเวียนในพื้นที่ส่วนตะวันออก เป็นเรื่องซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควร
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ระหว่างการพูดจาหารือเบื้องต้นบ่งชี้ว่านาโต้อาจจะต้องส่งทหารเข้าไปเพิ่มเติมใน 6 ชาติสมาชิกทางตะวันออก ซึ่งล้วนเคยอยู่ใต้การครอบงำของสหภาพโซเวียต ได้แก่ ลิทัวเนีย, ลัตเวีย, เอสโตเนีย, โปแลนด์, บัลแกเรีย และโรมาเนีย แต่ละประเทศไม่เกิน 1,000 คน รวมแล้วอยู่ระหว่าง 3,000-6,000 คน หรือราว 1 กองพลน้อย โดยที่กองทหารเพิ่มเติมเหล่านี้ยังจะได้รับการหนุนหลังจากกองกำลังตอบโต้เร็วของนาโต้ (NATO Response Fore หรือ NRF) ที่จัดตั้งกันขึ้นมาก่อนหน้านี้ ซึ่งประกอบด้วยกำลังทางอากาศ, เรือ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จำนวนรวมไม่เกิน 40,000 คน
ทั้งนี้ กองกำลัง NRF ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 อีกทั้งยังมีการก่อตั้ง “กองกำลังร่วมเฉพาะกิจเตรียมพร้อมสูงมาก” (VJTF) เพื่อให้เป็นหน่วยนำของ NRF ในปี 2014 ตามคำแถลงของสโตลเตนเบิร์กในวันพุธ (10) กองกำลังตอบโต้เร็วของนาโต้มีขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัวแล้วเมื่อเทียบกับตอนเริ่มต้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ คณะบริหารโอบามาประกาศแผนการของตนเองที่จะเพิ่มยอดใช้จ่ายเกี่ยวกับทหารสหรัฐฯ และการฝึกอบรมทางทหารในยุโรปขึ้นมาเป็น 4 เท่าตัว โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ถ้ารัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติข้อเสนอมูลค่า 3,400 ล้านดอลลาร์นี้ ก็จะหมายความว่ากองทหารอเมริกัน 1 กองพลน้อยสามารถไปปรากฏตัวอยู่ในยุโรปได้ตลอดทั้งปี โดยที่จะปฏิบัติภารกิจด้านการฝึกสอนทหาร ส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะแยกกันเป็นหน่วยย่อยๆ และเข้าไปตามบรรดาชาติสมาชิกนาโต้ซึ่งประชิดอยู่ติดกับรัสเซีย
ไม่เพียงเท่านั้น ยอดงบประมาณนี้ยังเพียงพอสำหรับการสะสมพวกรถถังและยุทโธปกรณ์อื่นๆ เอาไว้เป็นการล่วงหน้า เพื่อให้กองทหารยานเกราะอีก 1 กองพลน้อยของสหรัฐฯ ได้ใช้ โดยที่กำลังทหารเองจะถูกส่งโดยเครื่องบินเข้าสู่ยุโรปในเวลาเกิดวิกฤตการณ์ อาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะเก็บไว้ในยุโรปตะวันตก แทนที่จะไว้ในประเทศซึ่งอยู่ใกล้ๆ รัสเซีย
ทางด้านปฏิกิริยาของฝ่ายมอสโกนั้น เมื่อวันจันทร์ (8) ที่ผ่านมา อเล็กซานเดอร์ กรุชโค ผู้แทนของรัสเซียประจำนาโต้ ได้ออกมากล่าวเตือนว่า ประเทศของเขาจะตอบโต้การสร้างสมกำลังทหารของนาโต้ในพื้นที่ใกล้ชายแดนรัสเซีย ระหว่างกล่าวแสดงความคิดเห็นทางโทรทัศน์รัสเซีย กรุชโคบอกว่าการส่งกำลังทหารนาโต้เข้าไปประจำในยุโรปตะวันออก “เป็นเรื่องที่ไม่สามารถปล่อยทิ้งเอาไว้ โดยที่ไม่มีคำตอบโต้ทางการทหาร-ทางเทคนิค”
“รัสเซียจะไม่ยอมประนีประนอมในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของตน” กรุชโคกล่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ สโตลเตนเบิร์กกล่าวในวันพุธ (10) ว่า เขากำลังจะได้พบปะหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ ของรัสเซียในวันศุกร์ (12) นี้ ที่เมืองมิวนิก, เยอรมนี และเขาจะย้ำว่านาโต้นั้นไม่ได้มีความตั้งใจในทางเป็นศัตรูต่อมอสโก
“ผมจะพูดย้ำว่า สิ่งที่นาโต้ทำนั้นก็เพื่อการป้องกัน เรื่องที่เราเพิ่มการปรากฏตัวในด้านตะวันออกของกลุ่มพันธมิตรนาโต้นั้นเป็นการกระทำที่สอดคล้องเหมาะสมและเข้ากันได้อย่างเต็มที่กับพันธะผูกพันระหว่างประเทศของเรา” สโตลเตนเบิร์กบอก