กองปราบทลายเครือข่ายยานรก “พ.อ.จะลอโบ่” ยึดเครื่องปั๊มพร้อมยาบ้าล็อตใหญ่มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท รับนำยาบ้ามาผสมยาไอซ์เพื่อเพิ่มความเข้มข้น
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ พ.ต.อ.สยาม บุญสม พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รักษาการ ผกก.2 บก.ป. ร่วมแถลงผลจับกุม นายพูนสวัสดิ์ หรือ แปะ เขียวเข้ม อายุ 45 ปี น.ส.ตรัณพัสกร ต่อมสูง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 228/2 ม 2 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี และ นายทวิทย์ เนียมพงษ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม 8 ต.เขากวางทอง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 80,000 เม็ด ยาบ้าชนิดกลมแบน มีอักษรภาษาอังกฤษ WY จำนวน 16,000 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 716 กรัม ผงสีขาว จำนวน 4 ถุง ยาบ้าชนิดป่นสีส้ม จำนวน 1 ถุง อุปกรณ์ในการผลิต บด และเคลือบเม็ดยา พร้อมอุปกรณ์สำหรับบรรจุ หลายรายการ โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีธนาคาร รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน
พ.ต.อ.พันธนะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายพูนสวัสดิ์ มีพฤติกรรมเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงออกหาข่าวกระทั่งทราบว่าจะมีการส่งยาเสพติดกันที่บริเวณลานจอดรถ วัดม่วง ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง กระทั่งพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นฟรอนเทียร์ สีน้ำตาล ทะเบียน บง 9036 จ.อุทัยธานี และรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ทะเบียน ฒล 9222 กทม. ขับเข้ามาที่บริเวณลานจอดรถภายในวัดดังกล่าว ก่อนทำการขนย้ายถุงปุ๋ยด้วยท่าทีมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมและทำการตรวจค้นก็พบยาบ้า จำนวน 80,000 เม็ด อยู่ในถุงปุ๋ยดังกล่าว
พ.ต.อ.พันธนะ กล่าวว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้งสาม ในพื้นที่ จ.อุทัยธานี และ จ.กาญจนบุรี โดยจุดแรกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 40 ม 8 ต.เขากวางทอง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายทวิทย์ เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 228/2 ม.2 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นายพูนสวัสดิ์ และ น.ส.ตรัณพัสกร สองสามีภรรยา เบื้องต้นพบอุปกรณ์ผลิตยาบ้า อุปกรณ์บรรจุยาบ้า และยาบ้าชนิดสีเขียวจำนวน 16,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในถุงเมล็ดทานตะวันอบแห้ง ผงยาบ้าจำนวนหนึ่ง และยาไอซ์ กว่า 716 กรัม จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด
ด้าน พ.ต.ท.อรุณ กล่าวว่า จากการข่าวของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภาคเหนือ พบว่า ยาเสพติดที่ทำการตรวจยึดได้ครั้งนี้ มีฐานการผลิตมาจากกลุ่มเครือข่ายพันเอกจะลอโบ่ กองพลน้อย 171 ซึ่งมีการลำเลียงยาบ้ามาพักที่ บก.46 ชนกลุ่มน้อยมูเซอ และว้า ก่อนที่จะลำเลียงเข้ามาในประเทศไทย โดยใช้รถบรรทุกซุกซ่อนยาบ้าปะปนมากับพืชพันธุ์ทางการเกษตร เข้ามาในเมืองชั้นใน ล่องมาสู่ภาคกลาง และพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล จากนั้นจะกระจายให้กลุ่มเอเยนต์ในพื้นที่ เพื่อที่จะนำมาเพิ่มความเข้มข้นโดยใช้ยาไอซ์เป็นส่วนผสม อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ พบว่า มีเม็ดยาสีเขียว 9,000 กว่าเม็ด ซึ่งถือว่าล็อตนี้เตรียมจะผลิตประมาณ 1 ล้านเม็ด รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
ด้าน นายพูนสวัสดิ์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อ เม.ย. ปี 2557 หลังจากที่พ้นโทษ ก็ได้มาทำธุรกิจไร่มัน แต่ประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ จึงได้ผันตัวมารับส่งยาเสพติด ซึ่งมีเพื่อนที่อยู่ในเรือนจำแนะนำให้รู้จักกับนายไก่ โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 5 หมื่นบาท ในส่วนของยาเสพติดครั้งนี้ นายไก่ ได้ว่าจ้างตนในราคา 5 หมื่นบาทเช่นกัน โดยให้ไปรับยาเสพติดมาเพื่อปรุงแต่ง โดยใช้ยาไอซ์เป็นส่วนผสมเพื่อเพิ่มความเข้มข้น สำหรับวิธีการทำนั้น ตนจะนำยาบ้าเม็ด และเกล็ดยาไอซ์ มาปั่นให้เป็นผง แล้วนำผงยาทั้งสองมาผสมกัน เข้าเครื่องอัดให้เป็นเม็ด จากนั้นนำผงยาไอซ์ไปคลุกกับยาบ้าเม็ด แล้วร่อนในตะแกรงให้ผงไอซ์ที่ตกผลึกหลุดออก จากนั้นนำเม็ดยาบ้าที่เคลือบผงไอซ์แล้วไปบรรจุถุงใหม่ ใส่เม็ดยาบ้าสีเขียวถุงละ 2 เม็ด เพื่อนับเม็ดยา ก่อนนำส่งให้ลูกค้า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อหา นายพูนสวัสดิ์ และ น.ส.ตรัณพัสกร ว่า ร่วมกันผลิตและมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและแจ้งข้อหา นายทวิทย์ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป