เอเอฟพี - พนักงานสอบสวนเนเธอร์แลนด์ยืนยันวานนี้ (3 ม.ค.) ว่าจะดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง กรณีองค์กรนักข่าวพลเมืองอ้างว่ามี “ทหารรัสเซีย” พัวพันกับเหตุยิงเครื่องบินโบอิ้งของมาเลเซียแอร์ไลน์สร่วงเหนือน่านฟ้ายูเครนตะวันออก เมื่อเดือน ก.ค.ปี 2014
ข้อมูลที่ว่านี้มาจากกลุ่ม “เบลลิงแคต” (Bellingcat) องค์กรนักข่าวพลเมืองสายสอบสวนในอังกฤษ ซึ่งเชี่ยวชาญการคัดกรองข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์และแหล่งข่าวเปิดอื่นๆ
“เราเพิ่งได้รับรายงานชิ้นนี้หลังวันคริสต์มาส” วิม เดอ บรูอิน โฆษกสำนักงานอัยการเนเธอร์แลนด์ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“เราจะศึกษาข้อมูลนี้อย่างจริงจัง เพื่อพิจารณาว่าจะนำไปใช้ในกระบวนการสอบสวนได้หรือไม่” เขากล่าว
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอุบัติเหตุทางการบินแถลงเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาว่า เที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สถูกยิงด้วยขีปนาวุธบุ๊ก (BUK) ชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศ ขณะบินอยู่เหนือภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ปี 2014 ทำให้ลูกเรือและผู้โดยสาร 298 คนเสียชีวิตทั้งหมด
ชาติตะวันตกรวมถึงยูเครนอ้างว่าจรวดลูกนี้ถูกยิงจากเขตอิทธิพลของกบฏที่มีรัสเซียหนุนหลังอยู่ ทว่ามอสโกยืนกรานปฏิเสธ และโทษว่าเป็นฝีมือกองทัพยูเครน
รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ซึ่งสูญเสียพลเมืองไปถึง 193 คนจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ได้อาสาเข้ามาตรวจสอบหาตัวผู้รับผิดชอบ ทว่าผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือไม่
กลุ่มเบลลิงแคทรายงานเมื่อปีที่แล้วว่า ฐานยิงจรวดบุ๊กเคลื่อนที่ซึ่งถูกพบอยู่ในเขตอิทธิพลของกบฏโปรรัสเซียเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ปี 2014 เป็นอาวุธที่ถูกลำเลียงเข้ามาจากกองพลน้อยต่อต้านอากาศยานที่ 53 ของรัสเซีย ซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองคุรสก์ (Kursk) แต่ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจบริเวณพรมแดนที่ติดกับยูเครน
หลังจากนั้นมีการบันทึกภาพฐานยิงจรวดดังกล่าวได้อีกครั้ง และพบว่าจรวดขาดหายไป 1 ลูก
เอเลียต ฮิกกินส์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มเบลลิงแคท ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ NOS ของเนเธอร์แลนด์วานนี้ (3) ว่า กลุ่มของเขาสามารถระบุชื่อทหารรัสเซีย 20 นายในกองพลดังกล่าวที่ “อาจจะ” ทราบว่าใครเป็นผู้ยิงจรวดโจมตีเครื่องบินมาเลเซีย หรือผู้ที่ยิงจรวดอาจจะปะปนอยู่ในทหารกลุ่มนี้ก็เป็นได้
NOS ระบุว่า หลักฐานที่เบลลิงแคทใช้ในการกล่าวอ้างมีทั้งภาพถ่ายซึ่งถูกโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต และข้อมูลบุคลากรทางทหารที่สามารถสืบค้นออนไลน์ได้ โดยรายงานที่ตรวจทานแล้วจะถูกเผยแพร่ในเร็วๆ นี้
เดอ บรูอิน ยอมรับว่า อัยการเนเธอร์แลนด์เคยติดต่อกับผู้สื่อข่าวของเบลลิงแคทมาแล้วก่อนหน้านี้