เอเจนซีส์ - คริสโทฟ มูลเลอ (Christoph Muelle) ผู้จัดการฝ่ายบริหารบริษัทสายการบินแห่งชาติมาเลเซีย “มาเลเซียแอร์ไลน์ส” คนใหม่ใหม่สัญชาติเยอรมันประกาศสั่งโละพนักงานจำนวน 6,000 ตำแหน่ง ในแผนปรับโครงสร้างฟื้นฟู หลังจากที่สายการบินแห่งนี้ประสบปัญหาวิกฤตจนถึงขั้นล้มละลาย แต่ได้รัฐบาลมาเลเซียเข้ามาโอบอุ้มหลังเกิดวิกฤตเที่ยวบิน MH370 และเที่ยวบิน MH17
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (1) ว่า สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สมีแผนการเลิกจ้างพนักงานจำนวน 6,000 ตำแหน่ง ให้คงเหลือพนักงานเพียงแค่ 14,000 ตำแหน่ง จากทั้งหมด 20,000 ตำแหน่ง หลังจากที่มีซีอีโอคนใหม่ของมาเลเซียแอร์ไลน์ส คริสโทฟ มูลเลอ (Christoph Muelle) ชาวเยอรมันได้รับการแต่งตั้งทำหน้าที่คุมบังเหียนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
“ตามความเป็นจริงแล้ว มาเลเซียแอร์ไลน์สล้มละลายไปนานแล้ว” มูลเลอกล่าวในงานแถลงข่าว “ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทได้เริ่มมีขึ้นก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรมในปี 2014"
ทั้งนี้ปี 2014 ถือเป็นปีแห่งความโชคร้ายของบริษัทสายการบินแห่งชาติเสือเหลือง MH370 พร้อมคนที่อยู่บนเครื่องทั้งหมดราว 239 คนได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย และในอีก 4 เดือนถัดมา MH17 ที่มีคนทั้งหมด 298 คนบนเครื่องถูกยิงตกในเขตยูเครนตะวันออก ซึ่งบีบีซีชี้ว่า เหตุการณ์ทั้งสองเป็นดังฟางเส้นสุดท้ายของมาเลเซียแอร์ไลน์สที่ก่อนหน้านี้พยายามที่จะทำกำไรกอบกู้ในธุรกิจการแข่งขันการบินเชิงพานิชย์ที่มีการแข่งขันสูง และมีรายงานการขาดทุนอย่างต่อเนื่องสะสมหลายปีก่อนหน้านั้น
มูลเลอร์ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในฐานะบอสคนใหม่ของมาเลเซียแอร์ไลน์ส ซึ่งได้รับการว่าจ้างโดยตรงจากเจ้าของบริษัทสายการบิน กองทุนรัฐบาลมาเลเซีย Khazanah เพื่อนำไปสู่การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่
ก่อนหน้านี้มูลเลอร์มีประสบการณ์ในการเป็นผู้นำองค์กรใหญ่ๆ เพื่อกอบกู้วิกฤตมาแล้ว เช่น Aer Lingus ของไอร์แลนด์ Sabena ของเบลเยียม รวมไปถึง Lufthansa ของเยอรมัน และเป็นเพราะขึ้นชื่อในด้านโละพนักงานออก ทำให้มูลเลอร์ได้รับฉายา “the Terminator”
บีบีซีรายงานเพิ่มเติมว่า ทางบริษัทสายการบินแห่งชาติมาเลเซียที่อยู่ภายใต้นายใหญ่ชาวเยอรมันคนใหม่มีกำหนดที่จะรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในวันที่ 1 กันยายนนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อ “ทำการลดการขาดทุน” ภายในปี 2015 และหวังว่าจะทำให้สถานภาพทางการเงินมีความเสถียรภาพได้ภายในปีถัดไป และหวังว่าจะเห็นตัวเลขการเติบโตอีกครั้งก่อนปี 2017
และเพื่อที่จะทำให้มาเลเซียแอร์ไลน์สบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้ทางบริษัทต้องลดจำนวนพนักงาน และรวมไปถึงปรับระบบเส้นทางการบินใหม่ ที่คาดว่าอาจจะเป็นการปรับลดเส้นทางการบินไปยังยุโรปที่ดูเหมือนมีต้นทุนสูง