เอเจนซีส์ / MGR online - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย จากการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโก ฮารัม” ที่เมืองแรนน์ ในเขตคาลาบัลเจของรัฐบอร์โน ในวันเสาร์ (9 ก.ค.)
รายงานข่าวซึ่งอ้างพยานผู้เห็นเหตุการณ์ในพื้นที่ ระบุว่า มือปืนที่เป็นสมาชิกกลุ่มโบโก ฮารัม ได้บุกเข้ามากราดยิงผู้คน และเผาบ้านเรือนของประชาชนในเมืองดังกล่าวที่อยู่ไม่ไกลจากแนวชายแดนไนจีเรีย - แคเมอรูน ตั้งแต่ช่วงดึกของคืนวันศุกร์ (8) จนกระทั่งเวลาล่วงเลยเข้าสู่วันเสาร์ (9)
“พวกมันเดินทางมาถึงหมู่บ้านของเราด้วยรถจักรยานยนต์ ก่อนจะลงมือกราดยิงในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่กำลังหลับ จากนั้นพวกมันได้จุดไฟเผาบ้านเรือน ก่อนจะจากไปพร้อมกับการขโมยอาหารและยาจากคลินิกเพียงแห่งเดียวของเมืองนี้” พยานที่เป็นชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าว
ก่อนหน้านี้ กองทัพไนจีเรียในช่วงค่ำวันจันทร์ (4 ก.ค.) ประสบความสำเร็จในการปลิดชีพมือระเบิดฆ่าตัวตายที่เป็นสตรีจำนวน 3 ราย ที่พยายามก่อเหตุโจมตีค่ายผู้อพยพในเมืองมุนโกโน
คำแถลงของกองทัพไนจีเรีย ระบุว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งสามรายนี้ ล้วนเป็นสมาชิกของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์สุดโต่ง “โบโก ฮารัม” ซึ่งถูกปลิดชีพขณะพยายามก่อเหตุโจมตีค่ายผู้อพยพพลัดถิ่นภายในประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองมุนโกโนราว 3 กิโลเมตร
รายงานข่าวระบุว่า แม้ทหารไนจีเรีย จะสามารถยิงมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงทั้ง 3 ราย จนถึงแก่ความตาย แต่ก็ไม่อาจยับยั้งการระเบิดของวัตถุระเบิดที่ถูกผูกติดไว้กับลำตัวของพวกเธอได้ เป็นเหตุให้มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดนี้อย่างน้อย 2 ราย ซึ่งขณะนี้ถูกส่งตัวไปรับการรักษายังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ ปัญหาความไม่สงบและเหตุรุนแรง ที่ก่อโดยกลุ่มติดอาวุธโบโก ฮารัม ที่เริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2009 ส่งผลให้เวลานี้มีชาวไนจีเรีย และผู้คนในประเทศเพื่อนบ้านรายรอบภูมิภาคทะเลสาบชาด ทั้ง ชาด แคเมอรูน และ ไนเจอร์ ที่ต้องกลายสภาพเป็นผู้อพยพแล้วกว่า 20 ล้านราย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี มู ฮัมมาดู บูฮารี ผู้นำไนจีเรีย ประกาศกร้าวเมื่อเดือนธันวาคม ระบุกองทัพไนจีเรียเป็นฝ่ายมีชัยชนะในทางเทคนิคเหนือกลุ่มติดอาวุธอิสลา มิสต์ “โบโก ฮารัม” แล้ว โดยยืนยันว่า ทางกองทัพสามารถทำลายศักยภาพในการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มสุดโต่ง ที่เคลื่อนไหวอยู่ทางภาคเหนือของประเทศกลุ่มนี้ลงได้อย่างสำคัญ
ผู้นำดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดของทวีปแอฟริกา เผยผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์บีบีซี โดยระบุว่า การกวาดล้างอย่างหนักของกองทัพไนจีเรียตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทำลายขีดความสามารถในการก่อเหตุโจมตีเต็มรูปแบบของกลุ่มโบโก ฮารัม ลงได้อย่างสำคัญ จนกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งกลุ่มนี้ต้องหันไปใช้เพียงการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ในระยะหลัง ซึ่งนั่นหมายความว่า ทางการไนจีเรียเป็นฝ่ายที่มีชัยชนะในทางเทคนิค เหนือกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้แล้ว ถึงแม้จะยังไม่สามารถกำจัดกลุ่มโบโก ฮารัม ได้อย่างสิ้นซากก็ตาม
ก่อนหน้านี้ อดีตนายพลชื่อดังอย่างบูฮารี ที่สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งผู้นำไนจีเรียได้เมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ประกาศกำหนดเส้นตายให้ทางกองทัพขุดรากถอนโคนภัยคุกคามจากกลุ่มโบโก ฮารัม ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2015 และประกาศเดินหน้าสร้างงาน และขยายโอกาสทางการศึกษา แก่บรรดาเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลแถบตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หวังป้องกันมิให้เยาวชนในพื้นที่ถูกดึงเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธนี้ ที่มีจุดมุ่งหมายในการสถาปนาการปกครองแบบรัฐอิสลามสุดโต่งขึ้นในภาคเหนือของไนจีเรีย
ทั้งนี้ เหตุรุนแรงที่ก่อโดยกลุ่มโบโก ฮารัม ซึ่งดำเนินมานานกว่า 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2009 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วไม่น้อยกว่า 20,000 ราย ขณะที่ประชาชนอีกเกือบ 20 ล้านคน ต้องอพยพหนีตายออกจากบ้านเรือนของตัวเอง โดยในระยะหลังกลุ่มโบโก ฮารัม ซึ่งต้องการสถาปนา “รัฐอิสลามสุดโต่ง” ขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรียได้เริ่มข้ามเขตแดนไปก่อเหตุรุนแรงในประเทศไนเจอร์ แคเมอรูน และ ชาด ต่อเนื่อง ตลอดจนประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย และ อิรัก ไปก่อนหน้านี้