xs
xsm
sm
md
lg

In Pics & Clips : นายกฯ ได้โปรดเลิกใช้!! สุดอึ้ง เบื้องหลังคาร์บอมบ์แบกแดด ดับล่าสุดไม่ต่ำกว่า 200 ชีวิต พบทหารอิรักใช้เครื่องตรวจระเบิดปลอม ADE 651s รุ่นเดียวกับ GT 200!! “อาบาดี” เพิ่งตื่น “สั่งเอาออกนอกพื้นที่ด่วน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอพี/เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีอิรัก ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี (Haider al-Abadi) ออกคำสั่งค่ำวันอาทิตย์ (3 ก.ค.) ให้นำเครื่องตรวจระเบิดปลอมรุ่น ADE 651s ซึ่งมีลักษณะคล้ายเครื่องตรวจระเบิด GT 200 ของกองทัพไทยออกนอกพื้นที่ และยกเลิกการใช้งานทันที หลังจากพบว่าเครื่องตรวจระเบิดรุ่นนี้ทำให้กลุ่มก่อการร้ายสามารถนำรถบรรทุกขนระเบิดจนเต็มคันผ่านจุดตรวจมากมายในกรุงแบกแดดเข้าสู่เขตคาราดา (Karada) ย่านชุมชนมุสลิมชีอะห์ ทำให้มีตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดในเช้าวันจันทร์ (4 ก.ค.) ไม่ต่ำกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิงถูกเผาทั้งเป็น และขาดอากาศในชอปปิ้งมอล และตามท้องถนน

อัลญะซีเราะห์ สื่อกาตาร์ รายงานล่าสุดวันนี้ (4 ก.ค.) ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตเหตุโจมตีวันอาทิตย์ (3) เพิ่มขึ้นล่าสุดในเช้าวันจันทร์ (4) ไม่ต่ำกว่า 200 คนแล้ว หลังจากทางเจ้าหน้าที่สามารถดึงร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากใต้ซากตึกที่ปรักหักพังเพราะแรงระเบิด ในจำนวนผู้เสียชีวิตพบมีเด็กรวมอยู่เป็นจำนวนมาก คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มมากกว่านี้ ส่วนตัวเลขผู้บาดเจ็บเอพีรายงานวันนี้ว่าอยู่ที่ 185 คน ในขณะที่เดลีเมล์ให้ตัวเลขผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 200 คน และยังคงมีการติดตามหาผู้สูญหาย

ด้านนายกรัฐมนตรีอิรัก ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี (Haider al-Abadi) ได้ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตี พร้อมกำหนดให้ 3 วันเป็นวันไว้อาลัยแห่งชาติในระหว่างที่เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ในขณะที่ประชาชนอิรักจำนวนมากได้ประณามต่อความหย่อนยานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปล่อยให้รถบรรทุกขนระเบิดสามารถเล็ดลอดผ่านจุดตรวจความมั่นคงจำนวนมากเข้าเขตชุมชนได้

หญิงอิรักคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเขตคาราดาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “นักการเมืองอิรักทั้งหมดต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์โจมตี รวมไปถึงนายกรัฐมนตรีอาบาดี” และกล่าวต่อว่า “ประชาชนอิรักไม่สามารถเฉลิมฉลองเทศกาลอิดได้ ซึ่งหากไม่ใช่กลุ่ม IS ก็ต้องเป็นกลุ่มอัลกกออิดะห์ และหากไม่ใช่ทั้งสองกลุ่มนี้ ต้องเป็นฝีมือกลุ่มการเมืองอิรักขี้ฉ้อในประเทศแห่งนี้” และเธอยังกล่าวต่อไปอย่างมีความโกรธว่า “พวกประชาชนชาวอิรักต่างตกเป็นเป้าการโจมตีในขณะพวกนักการเมืองอยู่อย่างปลอดภัยภายในปราสาทราชวังของตนเองที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น คนพวกนี้เป็นผู้ที่อนุญาตให้กลุ่มก่อการร้าย IS ผ่านเข้ามาเพื่อสังหารชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์”

เอพีรายงานว่า อาบาดีได้ออกคำสั่งให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในเมืองหลวงของอิรักอย่างเข้มงวด ซึ่งมีรายงานว่าในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีอิรักเดินทางมาตรวจการณ์ในจุดเกิดเหตุ ฝูงชนได้รุมล้อมรถคาราวานของเขา ต่างตะโกนด่าทอ และใช้ก้อนหินขว้างปาใส่ พร้อมกับเรียกอาบาดีว่า “ไอ้โจร” ซึ่งในแถลงการณ์ของอาบาดีที่ออกในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (3 ก.ค.) ***มีการสั่งการให้นำเครื่องตรวจระเบิดปลอมสุดฉาวรุ่น ADE 651s ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับไม้ชี้ไปที่ระเบิดของบริษัทสัญชาติอังกฤษ ATSC Ltd ออกจากการใช้งานในพื้นที่ทันที พร้อมยังให้เปิดการสอบสวนอีกครั้งในเครื่องมือตรวจระเบิดปลอมสัญชาติอังกฤษนี้***

ทั้งนี้ พบว่าเครื่องมือตรวจระเบิดรุ่น ADE 651s ที่ทหารอิรักใช้ในบริเวณจุดตรวจในกรุงแบกแดดจนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนในวันอาทิตย์ (3 ก.ค.) มีลักษณะเช่นเดียวกันกับเครื่องมือตรวจระเบิดปลอม GT 200 จากบริษัทสัญชาติอังกฤษ โกลบัล เทคนิคัล แอลทีดี (Global Technical Ltd.) ของกองทัพไทยไม่มีผิด

เอพีรายงานว่า ในปี 2010 ผู้อำนวยการของบริษัท ATSC Ltd ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกง และทำให้ในขณะนั้นรัฐบาลอิรักได้เปิดการสอบสวนขึ้นทันทีสาวไปถึงตัวการคอร์รัปชันในการจัดซื้อ และนำมาสู่การจับกุมบางส่วนในเวลาต่อมา แต่ทว่าการตรวจสอบไม่คืยหน้า และเครื่องตรวจระเบิดปลอม ADE 651s ยังคงถูกใช้งานในพื้นที่ปฎิบัติการจนถึงเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.)

จากข้อมูลพบว่า เครื่องมือตรวจระเบิดรุ่น ADE 651s นั้นมีคล้ายคลึงมากกับเครื่องมือตรวจระเบิดรุ่น GT 200 โดยพบว่า ADE 651s นั้นถูกรัฐบาลอังกฤษได้ประกาศว่าเป็นเครื่องตรวจระเบิดปลอม และห้ามส่งออกไปยังอิรักและอัฟกานิสถานในเดือนมกราคม 2010 พร้อมกันนี้รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศเตือนไปยังรัฐบาลชาติต่างๆ ว่า ทั้ง GT 200 และ ADE 651s ไม่มีความสามารถในการตรวจวัตถุระเบิดใดๆ ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม พบว่า ADE 651s ถูกส่งออกไปจำหน่ายในตลาดตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันตก ส่งขายให้กว่า 20 ประเทศในย่านนั้น รวมไปถึงอิรัก อัฟกานิสถาน ปากีสถาน ในราคาจำหน่าย 60,000 ดอลลาร์ต่อยูนิต และยังพบว่า ADE 651s ยังถูกขายให้แก่ตำรวจเบลเยียมเพื่อใช้ในปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดอีกด้วย โดยมีรายงานว่าตำรวจเบลเยียมได้จัดหา ADE 651s ในสนนราคา 12,800 ปอนด์เพื่อตรวจหายาเสพติดที่ทางตำรวจเบลเยียมเชื่อว่าเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าในการใช้เจ้าหน้าที่สุนัขดมกลิ่นหายาเสพติด

ในขณะที่ GT 200 ถูกส่งขายมายังไทย อินเดีย เม็กซิโก และชาติต่างๆ ในทวีปแอฟริกา ซึ่งในส่วนของเจ้าของบริษัท โกลบัล เทคนิคัล แอลทีดี ถูกส่งเข้าเรือนจำในวันที่ 6 กรกฎาคม 2013 ในข้อหาฉ้อโกง 2ข้อหาที่เกี่ยวกับการจำหน่ายและผลิตเครื่องตรวจระเบิดปลอม และพบว่า GT 200 ถูกจำหน่ายในราคา 22,000 ปอนด์ต่อยูนิต

เอพีรายงานต่อว่า และในคำสั่งทางบริหารของนายกรัฐมนตรีอิรักพบว่า อาบาดีสั่งให้ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์ติดตั้งบริเวณทางเข้าของตัวจังหวัดต่างๆ รวมไปถึงให้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น และเพิ่มความถี่การตรวจการณ์ทางอากาศ และสั่งให้หน่วยงานข่าวกรองอิรักเข้าทำหน้าที่ร่วมมือกับหน่วยงานรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ในการรักษาความสงบ

ด้านเดลีเมล์รายงานว่า มีการเปิดเผยภาพเหตุการณ์หลังเกิดการโจมตีด้วยคาร์บอมบ์กลางย่านธุรกิจในเขตคาราดา (Karada) ของชุมชนมุสลิมชีอะห์ทางตะวันตกของกรุงแบกแดดเป็นครั้งแรก ปรากฏภาพเปลวเพลิงสูงท่วมภายในไหม้อาคารร้านค้าในชอปปิ้งมอลสูงหลายชั้น และผู้คนตะโกนด้วยความกลัวตายสุดชีวิตในขณะที่เปลวไฟลามไปทั่วจากเบื้องล่างสู่เบื้องบน ในเช้าวันที่มีประชาชนชาวอิรักนิกายชีอะห์กำลังอยู่ในระหว่างการออกมาจับจ่ายข้าวของในของวันอาทิตย์ (3 ก.ค.) รับเทศกาลอิด (Eid festival) ฉลองการสิ้นสุดเดือนรอมฎอนที่จะมีขึ้นในวันอังคาร (5)

คาราดาถือเป็นย่านของผู้มีรายได้ในกรุงแบกแดด เป็นที่อยู่ของมุสลิมสายชีอะห์และชุมชนคนกลุ่มน้อยชาวคริสต์ เอพีรายงานว่าในย่านนี้เป็นที่ตั้งของร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องประดับจำนวนมาก รวมไปถึงภัตตาคารและคาเฟ่ต่าง และพบว่าเขตนี้ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีก่อการ้ายหลายครั้ง ซึ่งในคาราดายังเป็นที่ตั้งของสำนักงานบริษัทสายการบินอัล-นาเซอร์ (Al-Naser)

เดลีเมล์รายงานต่อว่า ผู้แทนอิรักประจำสหประชาชาติ แจน คูบิช (Jan Kubich) ได้ประณามการโจมตีล่าสุดว่าเป็นการกระทำของคนขี้ขลาด พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ซึ่งแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจอิรักในจุดเกิดเหตุได้ให้ข้อมูลกับสื่ออังกฤษว่า ในการโจมตีรอบแรกทำให้มีเด็กเสียชีวิต 15 คน ผู้หญิง 10 คน และตำรวจอิรัก 6 คน เป็นการโจมตีเกิดขึ้นในเวลาหลังจากเที่ยงคืนของวันเสาร์ (2 ก.ค.) เข้าสู่เช้าวันอาทิตย์ เป็นเวลาที่ครอบครัวชาวอิรักซึ่งมีเด็กรวมอยู่ในนั้นต่างออกจากบ้านหลังจากสิ้นสุดเวลาการถือศีลอด

มีรายงานว่าเหยื่อส่วนใหญ่อยู่ภายในตึกชอปปิ้งมอล และสวนสนุกของห้างฯ ต้องเสียชีวิตเนื่องจากถูกเพลิงเผาจนเป็นตอตะโก หรือขาดอากาศจนตาย แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจอิรักแถลง

หนึ่งในพยานในที่เกิดเหตุ คาริม ซามี (Karim Sami) วัย 35 ปี พ่อค้าบนถนนที่เกิดเหตุได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “แรงระเบิดทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรง” และเผยต่อว่า “ผมอยู่ในระหว่างการเก็บข้าวของเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านในขณะที่สังเกตเห็นลูกไฟลุกท่วมพร้อมกับเสียงระเบิดดังลั่น และทำให้รู้สึกกลัวมาก จึงได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อหาเพื่อนแต่ไม่สามารถติดต่อหาใครได้” ซามีคุณพ่อชาวอิรักลูกสามให้ความเห็น และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หนึ่งในเพื่อนของซามีต้องจบชีวิตในเหตุโจมตีนี้ ในขณะที่อีกคนได้รับบาดเจ็บ ส่วนเพื่อนคนที่ 3 ยังไม่สามารถติดต่อได้

ด้านเจ้าหน้าที่อิรักได้ให้ความเห็นว่า ทางเจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกเผาจนเป็นตอตะโกภายในร้านค้า แต่ทว่าไม่อยู่ในสภาพที่จะได้รับการจดจำได้ และต้องใช้วิธีทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลในการระบุชื่อของผู้เสียชีวิต โดยหนึ่งในเจ้าหน้าที่อิรักกล่าวว่า “ไม่มีทางที่จะบอกได้ว่าศพนี้เป็นใคร” ซึ่งมีรายชื่อผู้เสียชีวิตติดอยู่ในโรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งในรายชื่อมีการระบุ “ศพไม่ทราบชื่อ” รวมอยู่ในการประกาศ

ในขณะที่พยานในที่เกิดเหตุอีกราย ซารี โมฮัมเหม็ด (Sari Mohammed) เจ้าของร้านค้าในที่เกิดเหตุได้ให้ความเห็นว่า “มีคนจำนวนมากยอมที่จะกระโดดจากหลังคาเพื่อเอาตัวรอดถึงแม้จะมีความสูงมาก และทำให้คนเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงขาหัก” และกล่าวต่อว่า “ในขณะบางส่วนได้ซ่อนตัวอยู่ภายในตู้เย็นในบริเวณชั้นหนึ่งของตัวชอปปิ้งมอล และเมื่อไฟได้ถูกดับลงแล้ว คนพวกนี้ออกมาในสภาพที่ยังมีชีวิต”

เดลีเมล์รายงานต่อว่า ในไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุโจมตี กลุ่มก่อการร้าย IS ออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบผ่านแถลงการณ์บนโลกโซเชียลมีเดีย โดยอ้างว่าต้องการโจมตีชาวอิรักนิกายชีอะห์โดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตามสื่ออังกฤษชี้ว่า ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าแถลงการณ์นี้ออกมาจากกลุ่มก่อการร้าย IS จริงหรือไม่ แต่แถลงการณ์ฉบับนี้ถูกโพสต์บนเว็บไซต์ที่สมาชิกก่อการร้ายใช้

นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุโจมตีมีภาพปรากฏเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และพลเรือนต่างหามร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกห่อด้วยผ้าห่มออกนอกพื้นที่อย่างเร่งด่วน ท่ามกลางควันไฟสีดำคลุ้งออกจากคูหาร้านค้าเบื้องหลัง ในขณะที่รถราที่จอดอยู่บนถนนรวมไปถึงแผงค้าข้างทางถูกไฟเผาไหม้จนกลายเป็นตอตะโก และกลุ่มหญิงชาวอิรักนั่งอยู่บริเวณข้างทางร้องไห้กับครอบครัวและคนรู้จักที่ถูกสังหาร ซึ่งถนนในเขตคาราดาเต็มไปด้วยซากปรักหักพังมากมาย ดังนั้นการค้นหาผู้สูญหายและผู้เสียชีวิตอาจต้องใช้เวลาหลายวัน

และในการโจมตีครั้งที่ 2 ระเบิดดังขึ้นในย่านชาบ (Shaab) เขตคนรายได้น้อยชุมชนชีอะห์ในกรุงแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บอีก 16 คน เป็นการโจมตีที่ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบ แต่สื่ออังกฤษชี้ว่าลักษณะการโจมตีที่มักพุ่งเป้าไปที่ย่านธุรกิจ และชุมชนมุสลิมชีอะห์เป็นสำคัญนั้นเป็นผลงานของกลุ่มก่อการร้าย
(ภาพจากนิตยสารแวร์นิตีแฟร์ 24 มิ.ย 2015)นายกรัฐมนตรีอิรัก ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี(Haider al-Abadi)ออกคำสั่งค่ำวันอาทิตย์(3 ก.ค)ให้นำเครื่องตรวจระเบิดปลอมรุ่น ADE 651s ซึ่งมีลักษณะคล้ายเครื่องตรวจระเบิด GT 200ของกองทัพไทยออกนอกพื้นที่ และยกเลิกการใช้งานทันที
 (ภาพจากนิตยสารแวร์นิตีแฟร์ 24 มิ.ย 2015)
ภาพทหารอิรักใช้เครื่องมือตรวจระเบิดปลอมADE 651s  (ภาพจากนิตยสารแวร์นิตีแฟร์ 24 มิ.ย 2015)
เครื่องตรวจระเบิด GT 200ของกองทัพไทย
เครื่องตรวจระเบิด GT 200ของกองทัพไทย


















กำลังโหลดความคิดเห็น