กลุ่มนานาชาติร้อง “อิสราเอล” หยุดก่อสร้างนิคมชาวยิว-ขวางการพัฒนาของปาเลสไตน์

รอยเตอร์ - อิสราเอลควรยุติการสร้างนิคม ขวางการพัฒนาของปาเลสไตน์ และสงวนที่ดินที่ชาวปาเลสไตน์ต้องการสร้างรัฐในอนาคตไว้ให้สำหรับชาวอิสราเอลใช้แต่เพียงผู้เดียว กลุ่มตัวแทน 4 ฝ่ายเพื่อสันติภาพในตะวันออกกลาง (Quartet) ชี้แนะในร่างรายงานฉบับหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งตาคอยมานาน รอยเตอร์ระบุ

ร่างรายงานฉบับนี้ของกลุ่มประเทศที่สนับสนุนกระบวนสันติภาพในตะวันออกกลาง ประกอบด้วย สหรัฐฯ รัสเซีย สหภาพยุโรป และองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า นโยบายของอิสราเอลเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาของ 2 รัฐนี้

“สิ่งนี้ทำให้เกิดข้อกังขาที่มีเหตุมีผลเกี่ยวกับความตั้งใจระยะยาวของอิสราเอลซึ่งบวกกับถ้อยแถลงของรัฐมนตรีอิสราเอลบางคนที่ว่าไม่ควรมีรัฐปาเลสไตน์เกิดขึ้น” ร่างรายงานนี้ระบุ

หนึ่งวันก่อนการเลือกตั้งอิสราเอลในปี 2015 นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า จะไม่มีรัฐปาเลสไตน์ในสมัยของเขา ก่อนที่จะกลับคำพูดไม่กี่วันหลังจากนั้นและยอมรับเป้าหมายของการแก้ปัญหาสองรัฐอีกครั้ง

ทูตประจำภูมิภาคตะวันออกกลางของยูเอ็น นิกโคเลย์ มลาดีนอฟ บรรยายสรุปรายงานดังกล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเมื่อวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.) และเขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่ามันได้ถูกเสนอต่อสมาชิกของ Quartet เพื่อผ่านความเห็นชอบเป็นครั้งสุดท้ายและน่าจะถูกเผยแพร่ในวันนี้ (1 ก.ค.)

แหล่งข่าวทางการทูตระบุว่า รายงานชิ้นนี้มีความลำเอียงทางการเมืองอย่างมากเนื่องจากมันได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรใกล้ชิดของอิสราเอลอย่างสหรัฐฯ ซึ่งพยายามที่จะรื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพในตะวันออกกลางท่ามกลางความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างเนทันยาฮูและประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ

ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำฝ่ายขวาของอิสราเอลและประธานาธิบดีสังกัดพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯ ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากความเห็นต่างอย่างสิ้นเชิงเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ที่เหล่าชาติมหาอำนาจนำโดยสหรัฐฯ ทำกับอิหร่านศัตรูเก่าแก่ของอิสราเอลเมื่อปีที่แล้ว

ร่างรายงานฉบับนี้ระบุว่า อิสราเอลถือสิทธิ์ขาดการใช้ 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ซี (Area C) ซึ่งประกอบด้วย 60 เปอร์เซ็นต์ของเขตเวสต์แบงค์และที่ดินการเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติ และที่ดินสงวนส่วนใหญ่

“การถ่ายโอนอำนาจและความรับผิดชอบให้แก่หน่วยงานปกครองพลเรือนของปาเลสไตน์ในพื้นที่ซีมากขึ้นตามข้อผูกมัดในข้อตกลงก่อนหน้านี้ได้ถูกทำให้หยุดชะงักและทำในทางตรงกันข้าม กระบวนการดังกล่าวควรถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาสองรัฐรุดหน้าและป้องกันไม่ให้รัฐใดรัฐหนึ่งเข้าถือครอง” ร่ายรายงานฉบับนี้ระบุ

ร่างรายงานฉบับนี้ระบุว่า ชาวอิสราเอลอย่างน้อย 570,000 คนกำลังอยู่อาศัยในนิคมต่างๆ ซึ่งยูเอ็นและประเทศส่วนใหญ่มองว่าผิดกฎหมาย

รายงานระบุว่า เคยมีการอนุญาตให้ก่อสร้างที่พักอาศัยสำหรับชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ซีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเมื่อปี 2014 ขณะที่ในปี 2015 ดูเหมือนว่าจะไม่มีการอนุญาตใดๆ อีกเลย

ชาวปาเลสไตน์ต้องการรัฐเอกราชในเขตเวสต์แบงก์ กาซา และเยรูซาเลมตะวันออก พื้นที่ซึ่งอิสราเอลเข้ายึดครองในสงครามปี 1967 การเจรจาสันติภาพรอบล่าสุดพังลงในเดือนเมษายนปี 2014 และความรุนแรงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ได้พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้