รอยเตอร์ - กองกำลังฝ่ายรัฐบาลอิรักสามารถยึดเขตสุดท้ายที่พวกนักรบ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ยึดครองอยู่ในเมืองฟัลลูจาห์ กลับคืนมาได้แล้วในวันอาทิตย์ (26 มิ.ย.) และผู้บัญชาการของการปฏิบัติการคราวนี้ประกาศว่าศึกครั้งนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วภายหลังการสู้รบดำเนินมาเกือบๆ 5 สัปดาห์
นายกรัฐมนตรี ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี ของอิรัก ประกาศอ้างชัยชนะเหนือพวกไอเอสในฟัลลูจาห์ตั้งแต่เมื่อกว่า 1 สัปดาห์มาแล้ว ทว่าการสู้รบยังคงดำเนินอยู่ภายในนครทางทิศตะวันตกของกรุงแบกแดดแห่งนี้ รวมทั้งในเขตโกลัน ซึ่งอยู่บริเวณตอนกลางของเมือง และกองกำลังอิรักเพิ่งประกาศว่ายึดได้สำเร็จในวันอาทิตย์ (26) การรุกโจมตีครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ในรูปของการถล่มโจมตีทางอากาศใส่พวก “รัฐอิสลาม”
“เราขอประกาศจากสถานที่แห่งนี้ จากเขตโกลันซึ่งอยู่ตรงกลางของเมืองว่า กองกำลังต่อต้านการก่อการร้ายได้กวาดล้างสถานที่แห่งนี้แล้ว และขอนำข่าวดีมายังประชาชนชาวอิรักว่า สงครามแห่งฟัลลูจาห์ได้สิ้นสุดลงแล้ว” พล.ท.อับดุล วาฮับ อัล-ไซดี กล่าวทางสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ
ไซดี ซึ่งขนาบข้างด้วยพวกนักรบท่าทางปลาบปลื้มยินดี มีบางคนโบกธงชาติอิรักด้วย กล่าวว่า ยังมีพวกไอเอสอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นยังคงยึดที่มั่นในอาคารบางแห่งเอาไว้ เขาระบุว่าในการปฏิบัติการยึดเมืองฟัลลูจาห์กลับคืนคราวนี้มีนักรบไอเอสถูกสังหารไปอย่างน้อย 1,800 ราย ส่วนที่เหลือก็หลบหนีไป
กองทหารรัฐบาลอิรักเปิดฉากการปฏิบัติการเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม เพื่อยึดคืนฟัลลูจาห์ ซึ่งเมื่อไม่กี่ปีก่อนเคยเป็นฐานสำคัญของพวกก่อความไม่สงบชาวมุสลิมสุหนี่ที่ต่อต้านกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งโค่นล้มซัดดัม ฮุสเซน ที่ก็เป็นชาวมุสลิมสุหนี่เช่นกันเมื่อปี 2003 และถัดจากนั้นก็เป็นที่มั่นในการต่อสู้คัดค้านรัฐบาลอิรักหลังยุคซัดดัม ซึ่งเป็นรัฐบาลที่นำโดยชาวมุสลิมชีอะห์
การที่กองกำลังอิรักสามารถเข้าไปสู่พื้นที่ใจกลางของเมืองฟัลลูจาห์ได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้หลายๆ ฝ่ายรู้สึกประหลาดใจเนื่องจากคาดหมายว่าจะต้องเกิดการสู้รบแบบดุเดือดนองเลือดกับพวกไอเอส
ระหว่างประกาศชัยชนะในสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีอาบาดีบอกว่า การยึดเมืองฟัลลูจาห์กลับคืนมาจะเป็นการแผ้วถางทางให้ทหารรัฐบาลเคลื่อนกำลังไปตีคืนเมืองโมซุล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรักที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ และปัจจุบันมีฐานะเป็นเมืองหลวงในทางพฤตินัยของพวกไอเอส
ซาบาห์ อัล-นูมานี ผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกคนหนึ่งให้กองกำลังต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งเป็นหัวหอกของการรุกชิงฟัลลูจาห์กลับคืน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า พวกผู้ก่อความไม่สงบออกมาสู้รบต้านทานอย่างจำกัดเท่านั้นในฟัลลูจาห์ และพากันล่าถอยไปหลังจากหัวหน้าของพวกเขาบางคนผละออกจากการสู้รบ
กองกำลังอิรักเวลานี้กำลังปฏิบัติการทำลายระเบิดต่างๆ ตลอดจนทำลายกับระเบิดที่ถูกวางเอาไว้ตามอาคารบ้านเรือน รวมทั้งไล่ติดตามพวกหัวรุนแรงที่หลบหนีออกจากเมืองจากด้านตะวันตกเฉียงเหนือ นูมานีระบุ
สำหรับรัฐมนตรีกลาโหม คอลิด อัล-โอเบดี ระบุในทวิตเตอร์ว่า ราวๆ 90% ของฟัลลูจาห์ยังคง “ปลอดภัยและอยู่อาศัยได้” เปรียบเทียบกันแล้วถือว่าดีกว่าสภาพของเมืองรามาดี และเมืองซินจาร์ เมื่อตอนที่กองกำลังรัฐบาลตีคืนมาจากพวกไอเอส ซึ่งถูกทำลายเสียหายหนักในระหว่างการสู้รบ
อย่างไรก็ดี ในการสู้รบเพื่อชิงฟัลลูจาห์กลับคืนคราวนี้ มีชาวเมืองกว่า 85,000 คนถูกบังคับให้หลบหนีมาพำนักอาศัยอย่างแออัดตามค่ายอพยพที่ดำเนินการโดยรัฐบาล ขณะที่สหประชาชาติระบุว่าได้รับแจ้งข้อกล่าวหาที่ว่ามีการล่วงละเมิดพลเรือนซึ่งหลบหนีออกมาจากเมือง พวกที่กระทำการมิชอบเหล่านี้ก็รวมถึงสมาชิกของกลุ่มติดอาวุธชาวชีอะห์ต่างๆ ซึ่งกำลังสนับสนุนการรุกโจมตีครั้งนี้ด้วย
พวกไอเอสนั้นได้ยึดฟัลลูจาห์เอาไว้ในเดือนมกราคม 2014 หรือ 6 เดือนก่อนหน้าที่พวกเขาประกาศก่อตั้ง “รัฐกาหลิบ” แบบอิสลามขึ้นในพื้นที่ผืนใหญ่ๆ ของซีเรียและอิรักซึ่งพวกเขาตีชิงยึดครองเอาไว้