รอยเตอร์ - กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายสองลูกซ้อนในพื้นที่ของชาวชีอะต์กลางกรุงแบกแดดเมื่อวันอาทิตย์ (28 ก.พ.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 70 ราย นับเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดของเมืองหลวงอิรักในรอบปีนี้ รวมถึงเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลอิรักยังไม่สามารถประกาศชัยชนะเด็ดขาดเหนือกลุ่มก่อการร้ายนี้ มิหนำซ้ำยังอาจบ่งชี้ว่ากองกำลังอิรักเองที่กำลังเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำในการต่อสู้
แหล่งข่าวในวงการตำรวจเผยว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายสองคนขี่จักรยานยนต์มาแล้วระเบิดตัวเองบริเวณตลาดโทรศัพท์มือถือที่มีผู้คนพลุกพล่าน ในย่านซาดร์ซิตี้ ซึ่งนอกจากมีผู้เสียชีวิตถึง 70 รายแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน
ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ทางออนไลน์ กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ประกาศว่าเป็นผู้บงการสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งยังบอกด้วยว่าจะไม่ยอมยุติการไล่เด็ดหัวมุสลิมชีอะต์
ช่วงที่ผ่านมากองทัพอิรักที่ได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ จนสามารถขับไล่ไอเอสออกจากจังหวัดอันบาร์ทางตะวันตก รวมถึงกำลังเตรียมการยึดเมืองโมซุลทางเหนือคืน แต่ถึงกระนั้นไอเอสก็ยังสามารถโจมตีนอกพื้นที่ยึดครอง โดยมักพุ่งเป้าที่ชาวชีอะต์ที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ของอิรัก ล่าสุดคือการโจมตีของมือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คนที่สังหารประชาชน 15 คนในมัสยิดแห่งหนึ่งในแบกแดดเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (25 ก.พ.)
นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อบาดี ของอิรัก กล่าวว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามล้างแค้นของไอเอสที่พ่ายแพ้กองทัพอิรักก่อนหน้านี้
นอกจากนั้น ช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์มีมือระเบิดฆ่าตัวตายและมือปืนกลุ่มหนึ่งโจมตีกองกำลังความมั่นคงของอิรักในอาบูกอหริบ เข้ายึดไซโลเก็บเมล็ดพืชและสุสาน รวมทั้งสังหารสมาชิกกองกำลังความมั่นคงอย่างน้อย 17 คน
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงกล่าวหาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือไอเอส ขณะที่สำนักข่าวอามักที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายนี้รายงานว่า ไอเอส “โจมตีพื้นที่บริเวณกว้าง” ในอาบู กอหริบ ที่อยู่ห่างจากใจกลางกรุงแบกแดด 25 กิโลเมตร ติดกับสนามบินนานาชาติ
คลิปที่เผยแพร่ทางออนไลน์โดยอามัก แสดงให้เห็นภาพพวกไอเอสหมอบอยู่หลังคันดิน เปิดฉากโจมตีด้วยปืนไรเฟิลอัตโนมัติ ปืนกล เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันได้ว่า คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์จริงหรือไม่
กองกำลังความมั่นคงอิรักสามารถยึดคืนพื้นที่ส่วนใหญ่ได้เมื่อค่ำวันอาทิตย์ แต่เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ยังคงมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
จาซิม อัล-บาฮาดลี นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงที่ประจำอยู่ในแบกแดด กล่าวว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์บ่งชี้ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศว่า ไอเอสพ่ายแพ้ในอิรัก รวมทั้งยังอาจหมายถึงการเพลี่ยงพล้ำของกองกำลังความมั่นคงอิรัก เว้นแต่กองทัพของรัฐบาลจะมีผลงานดีกว่านี้ในการโต้ตอบการโจมตีของไอเอส
ทั้งนี้ แหล่งข่าวในกองทัพและสำนักงานตำรวจเผยว่า ผู้ก่อการร้ายโจมตีจากพื้นที่ยึดครองของไอเอสในการ์มาและฟัลลูจาห์ โดยใช้รถฮัมวีและปิ๊กอัพติดปืนกล
รายงานระบุว่า มีการประกาศเคอร์ฟิวขณะที่กองกำลังต่อต้านก่อการร้ายของอิรักเคลื่อนพลเข้ายึดคืนไซโลในอาบูกอหริบ รวมถึงป้องกันไม่ให้ผู้ก่อการร้ายเข้าถึงสนามบินที่อยู่ใกล้กัน
เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอิรักยังได้ทิ้งระเบิดใส่ที่ตั้งของไอเอส พันเอกซาอัด มาอัน โฆษกกระทรวงมหาดไทยอิรัก ระบุว่า มีผู้ก่อการร้ายไอเอสเสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย จากปฏิบัติการนี้
ขณะเดียวกัน นักรบจากแนวร่วมฮาชิด ชาอาบี ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบชีอะต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเป็นหลัก ได้เคลื่อนกำลังไปยังอาบูกอหริบ เพื่อหนุนกองกำลังของอิรักในบริเวณดังกล่าว
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ม็อกตาดา อัล-ซาดร์ นักการศาสนานิกายชีอะต์ที่ทรงอิทธิพล เรียกร้องให้นักรบที่ภักดีต่อตน เตรียมพร้อมปกป้องแบกแดด ทั้งนี้ นักรบชีอะต์อย่างพีซ บริเกดส์ของซาดร์ ถือเป็นปราการสำคัญต่อต้านการรุกคืบของไอเอสในปี 2014 ที่คุกคามเมืองหลวงของอิรักและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของนิกายชีอะต์ส่วนใหญ่ในแบกแดด