xs
xsm
sm
md
lg

เผยสภาพเมืองรามาดีพินาศยับหลังยึดอิรักคืนจากIS เตือนพลเรือนอย่าเพิ่งรีบกลับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รถของกองกำลังความมั่นคงอิรักกำลังแล่นเข้าไปยังศูนย์ราชการในรามาดี หลังยึดคืนเมืองแห่งนี้จากไอเอสได้สำเร็จ
เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่เผยในวันพุธ(30ธ.ค.) ว่าสภาพเมืองรามาดีได้รับความเสียหายอย่างกว้างขวางตามหลังเหตุสู้รบยาวนานหลายเดือน พร้อมเตือนยังเร็วเกินไปที่พลเรือนจะกลับไปยังเมืองแห่งนี้ หลังจากกองทัพอิรักยึดคืนมันได้มาจากพวกนักรบญิฮัดไม่กี่วันที่ผ่านมา

กองทัพอิรักประกาศชัยชนะในสมรภูมิรามาดีเมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์(27ธ.ค.) หลังสามารถรุกขยี้ทวงการควบคุมศูนย์ราชการส่วนกลางของเมืองคืนมาจากกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ได้สำเร็จ

พวกญิฮัดบางส่วนยังไม่ถูกไล่ต้อนออกไป โดยส่วนใหญ่ยังซ่องสุมอยู่ในขอบตะวันออกของเมือง และหลายพื้นที่ซึ่งยึดคืนมาได้ ก็ยังไม่ได้รับการขจัดระบิดข้างทางและกับระเบิดที่พวกนักรบลอบวางเอาไว้ "มีความเสียหายอย่างกว้างขวางในเมือง ผลจากการกระทำของพวกก่อการร้ายและปฏิบัติการทางทหาร" อิบรอฮิม อัล-โอเซจ สมาชิกสภาเขตรามาดีกล่าว

นักรบไอเอสลอบวางกับระเบิดหลายพันลูกทั่วเมืองรามาดี ส่วนหนึ่งในความพยายามป้องกันตนเองจากการจู่โจมของกองกำลังรัฐบาลเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ขณะที่พันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ มีส่วนสนับสนุนให้อิรักยึดคืนเมืองแห่งนี้คืนมาได้สำเร็จ ด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่รามาดีราว 630 เที่ยวนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม หลังแบกแดดสูญเสียการควบคุมเมืองแห่งนี้ในเดือนพฤษภาคม

"จากการคาดหมายเบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนมากกว่า 3,000 หลังถูกทำลายโดยสิ้นเชิง" นายโอเซจ กล่าวถึงเมืองรามาดีที่อยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตกแค่ราวๆ 100 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามเขาเชื่อว่าตัวเลขน่าจะสูงกว่านี้ เนื่องจากการประเมินไม่ได้ครอบคลุมถึงย่านที่พักอาศัยบางจุดที่ยังไม่ได้เคลียร์กับระเบิด

"มีบ้านเรือนอื่นๆอีกหลายพันหลังที่มีระดับความเสียหายมากบ้างน้อยบ้าง น้ำประปา ไฟฟ้า ท่อน้ำทิ้งและสาธารณูปโภคอื่นๆ อย่างเช่นสะพาน อาคารราชการ โรงพยาบาลและโรงเรียน ได้รับความเสียหายบางส่วน" เขากล่าว

ด้านพันตรีไมเคิล ฟิลาโนวสกี เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของสหรัฐฯระบุในวันพุธ(30ธ.ค.) ว่าบริเวณใจกลางเมืองรามาดี ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำยูเฟรทีส มีสะพาน 5 แห่งได้รับความเสียหายหนักบ้างน้อยบ้าง "โดยทั้ง 5 อย่างน้อยๆก็พังถล่มช่วงใดช่วงหนึ่ง" เขากล่าว พร้อมคาดหมายว่าคงต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการซ่อมแซม

พลเรือนเริ่มหลบหนีออกจากรามาดี เมืองเอกของจังหวัดอันบาร์ เมื่อ 2 ปีก่อน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่ลุกลามและการอพยพก็ยังมีขึ้นต่อเนื่องจนถึงสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตามชาวบ้านไม่กี่ร้อยครอบครัวที่ยังหลบซ่อนอยู่ภายในบ้านระหว่างการสู้รบ ได้รับการอพยพจากทหารในวันอังคาร(29ธ.ค.) และพาไปยังศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งในเมืองฮับบานิเยาะห์ ทางตะวันออกของรามาดี

จากข้อมูลขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน พลเมืองของอันบาร์ คิดเป็นจำนวนราว 1 ใน 3 ของประชาชน 3.2 ล้านคนที่ต้องไร้ถิ่นฐานจากความขัดแย้งในอิรักนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2014


กำลังโหลดความคิดเห็น