เอเอฟพี - กองทัพอิรักสามารถทวงคืนเมืองยุทธศาสตร์ “รามาดี” ได้อย่างเบ็ดเสร็จ หลังกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ละทิ้งกลุ่มอาคารที่ทำการรัฐบาลใจกลางเมืองซึ่งเป็นที่มั่นสุดท้ายของพวกเขาเมื่อวันอาทิตย์ (27 ธ.ค.) โดยความสำเร็จในการกอบกู้เมืองแห่งนี้ถือว่าเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับกองทัพแบกแดด นับตั้งแต่เปิดฉากภารกิจกวาดล้างนักรบญิฮัดทั่วประเทศเมื่อปีที่แล้ว
หน่วยต่อต้านก่อการร้ายยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่บางจุดในกลุ่มอาคารที่ทำการรัฐบาล เนื่องจากพวกไอเอสได้ฝั่งกับระเบิดไว้ทั่วบริเวณก่อนจะหลบหนีไป
แม้อาจจะยังมีนักรบไอเอสหลงเหลืออยู่บ้าง แต่กองทัพอิรักยืนยันว่าไม่มีการต่อต้านเกิดขึ้นแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลก็ประกาศแสดงความยินดีที่ทหารสามารถปลดปล่อยเมืองเอกของจังหวัดอันบาร์ให้พ้นจากการยึดครองของไอเอสได้
“นักรบดาเอช (ไอเอส) หลบหนีไปหมดแล้ว เวลานี้ไม่มีการต่อต้านเกิดขึ้นอีก” ซาบาห์ อัล-นูมาน โฆษกหน่วยต่อต้านก่อการร้ายอิรัก ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี พร้อมระบุว่า “ยุทธการครั้งนี้เกือบจะเสร็จสมบูรณ์” โดยเหลือเพียงปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ เพื่อให้ทหารสามารถเข้าไปยังกลุ่มอาคารที่ทำการรัฐได้
ชาวอิรักในหลายเมืองต่างนำธงชาติมาโบกสะบัดเพื่อฉลองที่รัฐบาลสามารถกอบกู้เมืองรามาดีคืนมาได้ รวมถึงที่เมืองการ์บาลา (Karbala) ซึ่งเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์
ซาลิม อัล-ญุบุรี ประธานรัฐสภาอิรัก ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อ “บรรดาวีรบุรุษแห่งกองกำลังความมั่นคงที่ได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งทำให้เมืองรามาดีถูกปลดปล่อยจากเงื้อมมือของผู้ก่อการร้าย”
ด้านกลุ่มชาติพันธมิตรสหรัฐฯ ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนกองกำลังอิรักในเมืองรามาดีก็แสดงความชื่นชมผลสำเร็จของยุทธการกอบกู้เมือง ซึ่งเริ่มต้นขึ้นไม่นานนักหลังจากที่อิรักสูญเสียรามาดีให้แก่ไอเอสเมื่อเดือน พ.ค.
“นี่เป็นผลจากการทำงานหนักตลอดหลายเดือนของกองทัพอิรัก หน่วยต่อต้านก่อการร้าย กองทัพอากาศอิรัก ตำรวจส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น นักรบจากชนเผ่าต่างๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรสหรัฐฯ ที่ช่วยโจมตีทางอากาศกว่า 600 ครั้ง ตั้งแต่เดือน ก.ค.” พ.ต.สตีฟ วอร์เรน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลง
ทหารอิรักซึ่งมีชาติพันธมิตรสหรัฐฯ ช่วยโจมตีทางอากาศหนุนหลัง สามารถบีบกระชับพื้นที่เข้าไปถึงใจกลางเมืองรามาดีได้ตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่แล้ว (22) โดยการต่อสู้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมากระจุกตัวอยู่เพียงรอบๆ กลุ่มอาคารที่ทำการรัฐ ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะในยุทธการทวงคืนเมืองแห่งนี้
แหล่งข่าวการแพทย์เผยว่า แค่วันอาทิตย์ (27) เพียงวันเดียวมีทหารที่บาดเจ็บถูกส่งตัวมารักษาถึง 93 นาย ส่วนร่างทหารที่เสียชีวิตจะถูกส่งตรงไปยังโรงพยาบาลหลักในเมือง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ สนามบิน
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า มีนักรบฝ่ายรัฐบาลถูกสังหารอย่างน้อย 5 คนในช่วง 2 วันมานี้ ทว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมดจากปฏิบัติการยึดเมืองคืน
จากการประเมินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เชื่อว่ามีนักรบไอเอสประมาณ 400 คนคอยป้องกันพื้นที่ใจกลางเมืองรามาดีเอาไว้ โดยส่วนใหญ่ปักหลักอยู่ภายในอาคารที่ทำการรัฐ ทว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาจำนวนนักรบญิฮัดลดลงอย่างมาก โดยบางส่วนหลบหนีไป และอีกหลายสิบคนถูกสังหารระหว่างต่อสู้กับกองทัพอิรัก หรือไม่ก็ใช้ระเบิดฆ่าตัวตาย
อาลี ดาวูด ประธานสภาเมืองคอลดียาห์ (Khaldiya) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ รามาดี ระบุว่า พวกไอเอสใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์เพื่อหลบหนีออกจากกลุ่มอาคารที่ทำการรัฐ
“นักรบดาเอชบังคับให้ชาวบ้านหลายครอบครัวที่อาศัยอยู่รอบๆ กลุ่มอาคารของรัฐเดินทางไปกับพวกเขา โดยมุ่งหน้าไปทางเขตซิชาริยาห์ ซูฟียา และญเวบา” ทางตะวันออกของเมืองรามาดี
ดาวูดได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันเสาร์ (26) ระบุว่าชาวบ้านประมาณ 250 ครอบครัวสามารถอพยพหนีออกมาจากเขตสู้รบ หลังกองทัพอิรักเริ่มปฏิบัติการปิดล้อมไอเอส โดยทหารได้นำชาวบ้านกลุ่มนี้ไปส่งยังพื้นที่ปลอดภัย
รามาดีอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตกราว 100 กิโลเมตร โดยเป็นเมืองเอกของจังหวัดอันบาร์ จังหวัดใหญ่ที่สุดของอิรักซึ่งมีพรมแดนติดกับซีเรีย จอร์แดน และซาอุดีอาระเบีย
ชัยชนะครั้งนี้ช่วยลบคำสบประมาทให้แก่กองทัพอิรักได้บ้าง หลังจากที่เคยล้มเหลวในการปกป้องดินแดน จนปล่อยให้พวกไอเอสยึดเมืองสำคัญไปได้หลายแห่งตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปี 2014